คณะกรรมการ กนอ.มีมติอนุมัติให้ขยายพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง (ส่วนขยาย) 1,008 ไร่ รองรับ นักลงทุนรายใหม่ในพื้นที่ อีอีซี คาด 5 ปี พัฒนาพื้นที่เสร็จ สร้างเม็ดเงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท จ้างงานเพิ่ม 8,000 คน
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนอ.หรือ บอร์ด กนอ.เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 ในการประชุมครั้งที่ 1/2564 มีมติอนุมัติให้ขยายพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง (ส่วนขยาย) เนื้อที่ประมาณ 1,008 ไร่ พื้นที่อำเภอปลวกแดง และอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดระยอง เป็นการขยายจากพื้นที่เดิมในที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท อมตะซิตี้ ระยอง จำกัด ซึ่งโครงการดังกล่าวฯ สอดรับกับนโยบายอีอีซีของทางรัฐบาล ที่ตั้งเป้าให้ปี 2564 เป็นปีแห่งการลงทุนอย่างเต็มที่ โดยวางเป้าหมายการลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท
ซึ่งพื้นที่อีอีซีถือเป็นปัจจัยหลักต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศที่มุ่งเป้าสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ และเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดึงดูดนักลงทุน แม้ว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 แต่โครงการต่างๆ ทั้งโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอยู่ เห็นภาพชัดเจน ทั้งในเรื่องการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง การส่งเสริมและสนับสนุนด้านต่างๆ เป็นภาพที่นักลงทุนต่างชาติรับทราบมาอย่างต่อเนื่อง
นางสาวสมจิณณ์ กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง (ส่วนขยาย) อยู่ในพื้นที่เป้าหมายรองรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีความสนใจลงทุนในพื้นที่ โดยทำเลที่ตั้งเชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอีอีซีทุกด้านทั้งการคมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาโครงข่าย 5G ในพื้นที่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ EEC ได้
- กนอ.เซ็นต์สัญญาเอ็กโก ระยอง ตั้งนิคมฯแห่งที่ 62
- กนอ.เซ็นต์สัญญา“โรจนะหนองใหญ่”ตั้งนิคมฯใหม่ รองรับอีอีซี
ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ 17 ประเทศในปี 2021 โดยอนาคตเศรษฐกิจของไทยจัดอยู่ในอันดับ 1 ด้วยเหตุผลที่ว่า นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดประเทศให้นักลงทุนเดินทางเข้ามาได้ก็จะมีนักลงทุนเข้ามาดูพื้นที่และสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้ยกไทยให้เป็นตลาดเกิดใหม่ที่ดึงดูดใจที่สุดในปี 2564 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแม้จะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดี ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น และในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีการนำวัคซีนมาใช้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อาจทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้และส่งผลให้กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ
สำหรับการขยายพื้นที่นิคมฯ อมตะซิตี้ ระยอง ถือเป็นกลไกสำคัญในการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาพื้นที่และทำการขาย/ให้เช่าพื้นที่ได้ทั้งหมดภายใน 5 ปี และก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 32,176 ล้านบาท เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 8,000 อัตรา โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของนิคมฯอมตะซิตี้ ระยอง ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมซอฟแวร์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา