ก.อุตฯ เร่งขนย้ายสารสไตรีนจากโรงงานหมิงตี้

ก.อุตฯ เร่งขนย้ายสารสไตรีนจากโรงงานหมิงตี้ ไปกำจัด ณ บริษัท อัคคีปราการฯ คาดแล้วเสร็จ 3 วัน หรืออาจเร็วกว่าหากไม่มีปัญหาอุปสรรค ส่วนความเสียหายล่าสุด บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ประมาณ 750 หลัง รถยนต์ เสียหาย ประมาณ 124 คัน 

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงาน จากทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้ดำเนินงานร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการขนย้ายสารสไตรีนโมโนเมอร์ ปริมาณ 600 ตัน ที่ยังคงค้างอยู่ในถังของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยได้มีการเติมสารปรับสภาพให้อยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยแล้ว เพื่อนำไปกำจัดที่ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู โดยอยู่ห่างออกไปตามเส้นทางขนส่งเป็นระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร โดยได้เริ่มทำการขนถ่ายใส่รถขนถ่าย (Taker) จำนวน 5 คัน ซึ่งแต่ละคันสามารถบรรจุได้ 20 ตันต่อคัน และสามารถขนย้ายได้ประมาณ 10-15 เที่ยว / วัน ซึ่งรถขนส่งสารฯ มีการติดตั้งวาล์วระบบอุปกรณ์ความปลอดภัยในการสูบส่งเข้าสู่แท็งค์บนรถขนส่งแล้ว และเริ่มขนถ่ายคันแรกตั้งแต่เวลา 10.30 น และจะทยอยขนถ่ายจนครบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 วัน หากไม่มีอุปสรรค เช่น กรณีฝนตก เป็นต้น โดยขณะที่ทำการขนย้ายได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยอำนวยความสะดวกด้วย

Industrial Products & B2B Products | รู้จักประเภทสินค้าอุตสาหกรรมช่วยให้ทำการตลาดชัดขึ้น | TEEREX

“การขนย้ายในช่วงเช้าที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ฝนไม่ตก และได้มีการปูแผ่นเหล็กป้องกันการทรุดตัวของเส้นทางการลำเลียงสำหรับรถ Taker เพื่อทำการขนส่งสารสไตรีนโมโนเมอร์ ได้เข้าไปยังจุดขนถ่าย ขณะเดียวกันก็ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย โดยการเตรียมรถดับเพลิงพร้อมวัสดุอุปกรณ์ ประจำระวังเหตุ 4 คัน พร้อมรถพยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีเข้าควบคุมการขนถ่ายสารสไตรีนโมโนเมอร์ด้วย”ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

• “สุริยะ”เผยชุมชนรอบโรงงานหมิงตี้ สามารถเข้าพื้นที่ได้แล้ว
• ก.อุตฯ ยกเว้นค่าตรวจโรงงานและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่ออีก 1 ปี
• ก.อุตฯ คาดจ่ายเงินช่วยเหลือชาวอ้อย เดือน มิ.ย.นี้
• ก.อุตฯ สั่ง จนท.WFH ลดความเสี่ยงโควิด มั่นใจไม่กระทบงานบริการ ปชช.

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความเสียหายล่าสุดโดยทางจังหวัดสมุทรปราการพบว่าตัวเลขล่าสุดที่เป็นความเสียหายต่อประชาชน มีบ้านเรือนเสียหาย ประมาณ 750 หลัง รถยนต์เสียหาย ประมาณ 124 คัน  ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น กระทรวงฯ ได้ให้โรงงานบริษัท หมิงตี้ฯ เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ทั้งนี้ กระทรวงฯ และจังหวัดสมุทรปราการได้ตั้งจุดรับข้อร้องทุกข์เพื่อรับเงินเยียวยา 3 แห่ง ได้แก่ 1.หน้าโรงงานหมิงตี้ฯ 2.  สถานีตำรวจบางแก้ว และ 3. สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ