ขณะนี้เพื่อนบ้านเร่งสปีดพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษส่งผลให้จีดีพีพุ่ง ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องพัฒนาพื้นที่ EEC ให้เป็นสถานีหลักทางเศรษฐกิจของไทยในภูมิภาค หากสำเร็จจีดีพีโตแน่ แต่ถ้ามัวนิ่งเฉยเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร MMThailand.com มีคำตอบ
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวในเวที “ไขข้อข้องใจ มองไปข้างหน้า อนาคต EEC” ซึ่งจัดโดยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) โดยได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ว่า ความชัดเจนของพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. … จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ส่วนแนวทางการดำเนินงานของ EEC ต้องลงทุนเพื่อปรับโครงสร้าง…นำเทคโนโลยีใหม่ สู่ภาคการผลิตและบริการในการปรับโครงสร้างต้องมีการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน และจะต้องมีเป้าหมายในการพัฒนาอย่างชัดเจน เพราะหากไม่มีเป้าหมาย..คือไม่มีจุดมุ่งหมาย..เสียเวลาเสียทรัพยากร
“ในช่วงที่เราไม่ได้ทำเขตเศรษฐกิจพิเศษมาพัฒนาประเทศ พัฒนาตามนโยบายต่างๆ ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านพากันทำนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษกันหมด เช่น จีน มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย ดังนั้น ถ้าหากไม่มีอีอีซี ประเทศไทยจะยังคงอยู่ที่การเติบโต 3% ต่อปี แล้วจะถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้า แต่ถ้าอีอีซีประสบความสำเร็จจะทำให้เศรษฐกิจไทยโตเพิ่มอีก 2% ต่อปี” ดร.คณิศ กล่าว
ขณะที่การส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ดร.คณิศ กล่าวอีกว่า นอกจากการลงทุน 10 อุตสาหกกรรมเป้าหมายในอีอีซีแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังได้เสนอเพิ่มให้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายตัวที่ 11 หรือ S11 นั่นคือ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมและสนับสนุนด้านความมั่นคง เนื่องจากรูปแบบสงครามในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นทางไซเบอร์ มีการใช้เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต โดรนสอดแนมเข้ามามากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีประเทศที่สนใจลงทุน เช่น จีน สหรัฐ และญี่ปุ่น
