กฟผ. ร่วมกับ มข. ลงนาม MOA “โครงการ Smart Campus – Khon Kaen University” พัฒนาระบบ Smart Energy Solutions ต่อยอดรูปแบบธุรกิจเกี่ยวเนื่องทางไฟฟ้าใหม่ๆ ในอนาคต
นางสาวจิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ เป็นผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวภายหลัง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) “โครงการ Smart Campus – Khon Kaen University” กับรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ว่า จากการที่ กฟผ. และ มข. ประสบความสำเร็จในการร่วมมือกันศึกษา “โครงการวิจัยและพัฒนา ENGY Wall เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” ซึ่ง กฟผ. ได้นำแบตเตอรี่ที่พัฒนาและผลิตโดย มข. มาพัฒนาต่อยอดเป็นระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Battery Energy Storage System (BESS) ภายใต้ชื่อ ENGY Wall ซึ่งเป็น BESS สำหรับใช้ในบ้าน กฟผ. และ มข. จึงได้ร่วมมือต่อยอดจัดทำ “โครงการ Smart Campus – Khon Kaen University” ภายในพื้นที่ มข. เพื่อผลักดันให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้พลังงานสะอาด และเป็นสถานที่พัฒนาระบบ Smart Energy Solutions แบบครบวงจร
อัปเดตเทรนด์อุตสาหกรรมทุกสัปดาห์
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ออกแบบโครงการ Smart Campus มข. ในรูปแบบรัฐกับรัฐ (G2G) ให้บริการบริหารจัดการค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า) โดยระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบรับประกันผลงาน ประกอบไปด้วย 6 ระบบ ได้แก่ ระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System : EMS) เพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานให้มีการเชื่อมต่อกับระบบกักเก็บพลังงาน ENGY Wall ที่สะสมพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในเวลาที่ระบบต้องการ สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการพลังงาน ความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้า ควบคู่กับระบบบริหารจัดการรายอาคาร (ENZY Platform) เพื่อติดตามและควบคุมการใช้พลังงานในอาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ระบบปรับอากาศ ที่มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาควบคุมปรับอุณหภูมิได้อัตโนมัติ พร้อมระบบแจ้งเตือนค่าใช้จ่าย (Demand Charge) เพื่อให้ผู้ใช้ไฟสามารถปรับลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ทันที โดยตั้งเป้าติดตั้งกับอุปกรณ์ระบบปรับอากาศขนาดไม่น้อยกว่า 20,000 บีทียู
อีกทั้ง กฟผ. จะดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ (Solar System) ภายในพื้นที่ มข. และระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) ในกลุ่มของอาคารกีฬา และหอพักขนาด 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมง เพื่อกักเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินจากระบบไฟฟ้าที่ผลิตจาก Solar System หรือบางช่วงเวลาที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าไม่มีแล้ว มาใช้จ่ายไฟในช่วงเวลาที่ต้องการ โดยเพิ่มขีดความสามารถการซื้อขายไฟผ่านระบบการซื้อขายไฟ (Energy Trading Platform: ETP) ในรูปแบบ Peer-Peer ระหว่างคณะ หรืออาคาร ซึ่งเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าเดิมของอาคารผ่านอุปกรณ์ Smart Meter ที่มีระบบออกบิลเพื่อติดตามค่าไฟฟ้า มูลค่าการเสนอซื้อขายพลังงานไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลาด้วย
นอกจากนี้ กฟผ. มีแผนติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Wallbox แบบชาร์จปกติ (Normal Charge) และแบบจ่ายไฟฟ้ากลับเข้ามาในระบบไฟฟ้า (V2G) สามารถเก็บเงินจากผู้ที่มาใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรองรับการจ่ายเงินที่สามารถผ่านระบบออนไลน์ได้ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนแผนนโยบาย Net Zero ของ มข. มุ่งสู่ Smart Campus อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยบันทึกข้อตกลงมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี กฟผ. และ มข. จะร่วมดำเนินการติดตั้งระบบต่าง ๆ พร้อมสนับสนุนให้บุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงานได้เข้าร่วมการศึกษา วิจัย และถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อยอดประสบการณ์การพัฒนาระบบ Smart Energy Solutions เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ Smart City และสร้างประโยชน์ต่อประเทศร่วมกันต่อไป