จีนส่งเสริมนโยบายกระตุ้นดีมานด์ในประเทศเพื่อแก้ไขผลกระทบจากปัญหาด้านการค้า โดยปัจจุบันเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโต 6.7% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งเป็นการเติบโตที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016
การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น จีนได้ทำการลดภาษีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อตอบสนองต่อปัจจัยภายนอกที่ไม่แน่นอน รวมถึงการวางแผนงบประมาณที่เพิ่มความรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ลดภาษีกว่า 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับบริษัทที่มีการทำ R&D
- สนับสนุนการขายโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่น
- ผ่อนปรนข้อจำกัดของธนาคารสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก
- เพิ่มความคล่องตัวการลงทุนสำหรับหน่วยงานเอกชน โดยนำเสนอโครงการด้านการขนส่ง ก๊าซ และการสื่อสาร
- เปิดโอกาสและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติด้วยการปรับปรุงนโยบาย
- ผลักดันรัฐบาลท้องถิ่นให้ใช้งานกองทุนที่มีอย่างมีศักยภาพ
- แนะนำสถาบันการเงินสำหรับการสนับสนุนเงินทุนอย่างสมเหตุสมผลกองทุนรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อให้โครงการที่มีศักยภาพไม่ต้องถูกยื้อไว้
- วางแผนการก่อสร้างและโครงการขนาดใหญ่ที่ตรงกับเป้าหมายการพัฒนาและความต้องการของสาธารณะ
- กระะตุ้นงานวิจัยพื้นฐานรวมถึงเทคโนโลยีสำคัญที่สร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง
โดยนโยบายที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นควรมีลักษณะเป็นนโยบายเชิงรุกและทำงานควบคู่กับนโยบายทางด้านการเงิน ทุกนโยบายอ้างอิงความสมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่จะเกิดขึ้นจริง
ที่มา:
- Bloomberg.com