กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และเอสซีจีประกาศโครงการ “ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีสำหรับถนนจากพลาสติกรีไซเคิล” เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกให้เป็นส่วนประกอบในการทำถนนยางมะตอย โดยโครงการนี้จะช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกในทะเลและชุมชน รวมถึงคุณสมบัติของพลาสติกจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของถนนพร้อมลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกจากการทำถนน
ในปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับ 6 ใน 192 ประเทศที่มีขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุดในโลก ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเผยว่า 23 จังหวัดชายฝั่งทะเลของไทยมีปริมาณขยะประมาณ 11.5 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้มีปริมาณขยะพลาสติกมากถึง 1.5 ล้านตัน ดาว และ เอสซีจี ได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพลาสติกรีไซเคิลเพื่อช่วยลดการรั่วไหลของพลาสติกในชุมชนสู่ทะเล โครงการนี้จะต่อยอดเป้าหมายพันธกิจด้านความยั่งยืน พ.ศ. 2568 ของดาว ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยการนำเสนอโซลูชั่นสำหรับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักในเรื่องการรีไซเคิล การนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ และสร้างบริบทเพื่อส่งเสริมธุรกิจที่ยั่งยืนสำหรับผู้ผลิตพลาสติกและลูกค้าของเรา
“เป้าหมายความยั่งยืน พ.ศ. 2568 ของดาวจะสำเร็จได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรที่มีเป้าประสงค์ในการดำเนินงานเพื่อชุมชนและสังคมเฉกเช่นเดียวกับเรา” นายเจฟ วูสเตอร์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนของ ดาว เคมิคอล กล่าว “การร่วมมือกับ เอสซีจี เพื่อจะหาโซลูชั่นที่เพิ่มคุณค่าให้กับขยะพลาสติกโดยการนำไปใช้พัฒนาเป็นถนนครั้งนี้ ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้ยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากพลาสติกได้อีกทางหนึ่ง”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดาว ได้ร่วมกับประเทศอินเดียและอินโดนีเซียจัดทำโครงการนำพลาสติกรีไซเคิลมาใช้ทำถนนยางมะตอย โดยในประเทศอินเดียนั้นได้สร้างถนนยางมะตอยจากพลาสติกรีไซเคิลในเมืองบังคาลอร์และเมืองปูเณ่รวมความยาว 40 กิโลเมตร ซึ่งใช้ขยะพลาสติกจำนวนกว่า 100 ตัน สำหรับประเทศอินโดนีเซียได้เริ่มสร้างถนนจากพลาสติกรีไซเคิลในเมืองเดป๊อคความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 9,781 ตารางเมตร จากขยะพลาสติกจำนวนกว่า 3.5 ตัน เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่พลาสติกที่จะถูกนำไปฝังกลบและลดการเล็ดลอดออกสู่ทะเล
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหารกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “ดาว ได้นำประสบการณ์และองค์ความรู้ที่เรามีจากการทำถนนยางมะตอยจากพลาสติกรีไซเคิลในประเทศต่างๆ มาร่วมกับความเชี่ยวชาญด้านพลาสติกของเอสซีจี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการทำถนนยางมะตอยจากพลาสติกรีไซเคิลที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยโซลูชั่นนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมประเทศไทยไปสู่การเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจีมุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศเพื่อทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์และยั่งยืน เช่นเดียวกับความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทยในครั้งนี้ที่จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเอสซีจีให้ความสำคัญมาโดยตลอดเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนด้วยการสร้างคุณค่าให้กับพลาสติกที่หมดอายุให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่นับเป็นนวัตกรรมทางถนนเพื่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนได้อย่างแท้จริง