จากรายงานของ Institute for Supply Management หรือ ISM ในเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่านมาเปิดเผยผลสำรวจ Report On Business จากภาคการผลิตผ่านระบบออนไลน์ชี้ให้เห็นว่าภาคการผลิตนั้นมีการเติบโตกว่า 56% ในขณะที่ประเทศจีนจากการรายงานของ CNBC นั้นภาคการผลิตเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
จากข้อมูลของ ISM พบว่ามีคำสั่งซื้อและการผลิตที่เติบโตขึ้น ในขณะที่สัญญาจ้างซัพพลายเออร์ในการส่งของเริ่มชะลอตัว คลังวัตถุดิบเริ่มเกิดการหดตัว ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่การส่งออกและนำเข้ากำลังเติบโต โดย PMI ประจำเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 56% ขึ้นมาจากเดือนกรกฎาคม 1.8% ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ดัชนีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมาเป็น 67.6%
- ดัชนีการผลิตเพิ่มขึ้นมาเป็น 63.3%
- ดัชนีคำสั่งซื้อ Backlog เพิ่มขึ้นมาเป็น 54.6%
- ดัชนีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 46.4%
- ดัชนีการส่งสินค้าของซัพพลายเออร์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55.8%
- ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 59.5%
- ดัชนีสินค้าส่งออกใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 53.3%
- ดัชนีนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 55.6%
- ดัชนีคลังสินค้าลดลงมาอยู่ที่ 44.4%
หลังสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 กิจกรรมการผลิตนั้นตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอาจเรียกได้ว่าเป็นเดือนแรกที่กระบวนการผลิตกลับมาดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกหลังจากซัพพลายเชนเริ่มกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กลุ่มตัวอย่างได้รายงานว่าบริษัทของพวกเขาและซัพพลายเออร์ทำงานกันโดยปรับแต่งโรงงานเสียใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดรูปแบบการทำงานของแรงงานซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ซึ่งกลุ่มตัวอย่างส่วนมากยังคงมองเห็นโอกาสในแง่ดี
ในส่วนของความต้องการของตลาดเกิดการขยายตัวเป็นผลจากการเติบโตของดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ที่แข็งแรงอย่างมากซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีการส่งออกที่ขยายตัว ในส่วนต่อมาดัชนีคลังสินค้าของลูกค้าอยู่ในจุดต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2010 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการผลิต และสุดท้ายดัชนีคำสั่งซื้อในส่วน Backlog นั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
สำหรับในส่วนของการบริโภคซึ่งถูกประเมินค่าด้วยการผลิตและดัชนีการจ้างงานถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นหากคำนวณจาก PMI และในส่วนของราคากำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ ในขณะที่กลุ่มคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์และกลุ่มโลหะมีการเติบโตที่แข็งแรง สำหรับกลุ่มปิโตรเลียมและถ่านหินเกิดการหดตัวจากแหล่งวัตถุดิบ จากกลุ่มอุตสาหกรรม 18 กลุ่มพบว่ามีกลุ่มที่เติบโตขึ้นตามลำดับ ดังนี้ ผลิตภัณฑ์ไม้, กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก, กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ, กลุ่มสิ่งทอ, ผลิตภัณฑ์เคมี, ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มโลหะ, เครื่องจักร, กลุ่มเครื่องหนัง, กลุ่มแร่อโลหะ,
ผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้บริษัทต่าง ๆ รั้งรอในการลงทุนในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2020 โดยเสียงตอบรับจากผู้ตอบแบบสอบถามที่น่าสนใจมีดังนี้
- “การจับตาดูสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นใน เม็กซิโก, บราซิล, ฟิลิปปินส์และฮ่องกงจะพบว่า COVID-19 นั้นมีอัตราการแพร่ขยายอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันสายของซัพพลายนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ COVID-19 อีกต่อไป” (กลุ่มคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์)
- “ธุรกิจอยู่ในสถานะที่ดีมาก การผลิตไม่สามารถรองรับความต้องการที่เกิดขึ้นได้เพียงพอ ซัพพลายเชนต้นน้ำบางส่วนเริ่มต้นที่จะมีปัญหากับวัตถุดิบและความพร้อมสำหรับงานด้านการขนส่ง” (กลุ่มเคมีภัณฑ์)
- “อุตสาหกรรมอากาศยานนั้นตกอยู่ภายใต้ความกดดันมหาศาล” (กลุ่มอุปกรณ์ด้านการขนส่ง)
- “ยอดขายภายสำหรับตลาดภายในประเทศนั้นมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราคาดว่าจะต้องเจอกับการหดตัวแต่มันไม่ได้เกิดขึ้น ตลาดการขายปลีกและลูกค้าตัวแทนจำหน่ายมีความแข็งแกร่งสูงและทำให้เกิดการขาดแคลนวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ ทำให้ยอดคำสั่งจากซัพพลายเออร์เพิ่มขึ้น” (กลุ่มแปรรูปโลหะ)
- “ธุรกิจสร้างบ้านนั้นมีความแข็งแรงอย่างต่อเนื่องแบบเดือนต่อเดือนตั้งแต่พฤษภาคม ธุรกิจยังคงเป็นที่ต้องการและเกิดการชะลอตัวจากปัญหาด้านซัพพลายที่เกิดขึ้นทั้งอุตสาหกรรม” (กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้)
- “เรามองเห็นยอดขายที่ปรับปรุงขึเนแบบเดือนต่อเดือนในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต เช่น กลุ่มไฟฟ้า กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งกำลังมองหาผู้ดำเนินการในกิจกรรมของโรงงาน” (กลุ่มพลาสติกและยาง)
- “การคาดการณ์สำหรับการผลิตนั้นมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในแต่ละอาทิตย์เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้า” (กลุ่มโลหะหลัก)
- “การผลิตติด ๆ ขัด ๆ โรงงานทั้ง 18 แห่งของเราต้องเริ่มแล้วก็ต้องหยุดสายการผลิตหลายครั้งซึ่งเป็นผลจาก COVID-19 แต่ซัพพลายเออร์สายตรงของเราทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการส่งวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ได้ตรงเวลาอย่างน่าประหลาดใจ” (อาหาร, เครื่องดื่ม และยาสูบ)
- “มีความต้องการจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่อย่างแข็งขันสำหรับผลิตภัณฑ์ของเรา ต้นทุนขาเข้าลดลงอย่างคงตัวสำหรับปฏิบัติการณ์ของเรา และบันทึกตัวเลขของโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ จากความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งเทรนด์ทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2017” (กลุ่มเครื่องจักร)
- “คำสั่งซื้อสำหรับอุปกรณ์ที่เป็นต้นทุนนั้นเกิดการชะลอตัวอีกครั้ง แม้จะมีการขอใบเสนอราคาอยู่แต่ลูกค้าจำนวนมากกำลังรอคอยไตรมาสที่ 4 เพื่อตัดสินใจดำเนินการต่อไป” (กลุ่มเครื่องจักร)
- “เราเริ่มที่จะเห็นการฟื้นตัวในบางส่วนของธุรกิจเราสำหรับเดือนสิงหาคม ในขณะที่ภาคส่วนอื่น ๆ ยังคงอ่อนกำลัง ธุรกิจส่งออกบางตัวชองเรากลับมามีกำไรได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตามตลาดในประเทศนั้นยังคงมีการผสมปนเปดีและร้ายกันอยู่” (กลุ่มกระดาษ)
ที่มา:
Ismworld.org
Cnbc.com