ราช กรุ๊ป ลงทุน 528 ล้านบาท โรงไฟฟ้าพลังน้ำกำลังผลิต 73 เมกะวัตต์ในอินโดนีเซีย เสริมพอร์ตพลังงานทดแทนเพิ่ม คาดหมายเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2571
บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำซิบันดง (Sibundong) กำลังการผลิตติดตั้ง 73.70 เมกะวัตต์ในอินโดนีเซีย ธุรกรรมดังกล่าวดำเนินการผ่านบริษัท Fareast Renewable Development Pte. Ltd. (FRD) ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 90 โดยบริษัทย่อยในสิงคโปร์ คือ RH International (Singapore) Corporation Pte. Ltd. (RHIS) ทั้งนี้ FRD ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท PT Tapanuli Hydro Energy ร้อยละ 55.56 จาก Eco Energy Holdings Pte. Ltd. (EEH) มูลค่า 13.89 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 528.07 ล้านบาท ส่งผลให้ RHIS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด เข้าถือหุ้นทางอ้อมใน PT Tapanuli Hydro Energy ร้อยละ 50 และรับรู้กำลังการผลิตของโครงการพลังน้ำซิบันดง 36.85 เมกะวัตต์
‘เครื่องผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก’ จากวัสดุสุดประหยัด แม้ไร้ลมพัดก็ไม่มีปัญหา | FactoryNews ep.31/1
สำหรับ PT Tapanuli Hydro Energy เป็นผู้พัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำซิบันดง ขนาดกำลังการผลิต 73.70 เมกะวัตต์ และอยู่ในเครือของ EEH ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัทฯ ที่ร่วมดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน-1 โครงการนี้ได้เสริมให้กำลังการผลิตพลังงานทดแทนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 19.18 โดยมีแผนที่จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ประมาณ ปี 2571
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลสำเร็จการลงทุนครั้งนี้เป็นผลจากการขับเคลื่อนพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ด้วยการผสานจุดแข็งเพื่อสร้างโอกาสการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโตไปด้วย สำหรับกลุ่ม EEH ถือเป็นพันธมิตรธุรกิจที่นำบริษัทฯ เข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนในอินโดนีเซียเมื่อปี 2561 เริ่มจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน-1 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี (run-of-river) ขนาดกำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำอาซาฮาน จังหวัดสุมาตราเหนือ ปัจจุบัน บริษัทฯ ถือหุ้นตามสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 47.89 และตามมาด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำซิบันดง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านเช่นเดียวกัน ตั้งอยู่บนแม่น้ำซิบันดง จังหวัดสุมาตราเหนือ
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะขยายพอร์ตลงทุนด้านพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพให้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันนอกจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำซิบันดง ในอินโดนีเซียแล้ว บริษัทฯ ยังมีอีก 10 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง ซึ่งจะทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2566 เป็นต้นไป ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเวียดนามและสปป.ลาว โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในฟิลิปปินส์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในออสเตรเลียและเวียดนาม จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนในโครงการด้านพลังงานทดแทนแล้วรวม 1,913.20 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 19.18 ของพอร์ตการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งหมด บริษัทฯ จะยังคงยึดแนวทางนี้ในการกำหนดกลยุทธ์ เป้าหมาย และแผนการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ ” นางสาวชูศรี กล่าว