สตาร์ ปิโตรเลียม รายงานสถานการณ์และชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีพบฟิล์มน้ำมันบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) พร้อมจัดทีมเฝ้าระวังน้ำมันรั่ว 24 ช.ม.
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC แจ้งว่า ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.20 น. บริษัทฯ พบฟิล์มน้ำมันประมาณ 5,000 ลิตร ระหว่างการเตรียมการจะเอาน้ำมันออกจากท่อที่อยู่ใต้ทะเล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง บริษัทฯ ขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในการตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าว ดังนี้
“มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก” รักษ์โลก ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อย CO2
บริษัทฯ ได้มีการวางแผนงานเพื่อทำการเตรียมเอาน้ำมันออกจากท่อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมวางแผน ซึ่งเป็นไปตามหลักวิศวกรรม คำนึงถึงความปลอดภัย และผลกระทบอันอาจจะเกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมในครั้งนี้ โดยก่อนดำเนินการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้ง เรื่องการเริ่มดำเนิน กิจกรรม ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และขั้นตอนการเตรียมการสำหรับการป้องกันการรั่วไหลไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว
ซึ่งในระหว่างเตรียมการเอาน้ำมันออกจากท่อ บริษัทฯ พบว่ามีการรั่วไหลของน้ำมันดิบออกมาจากท่ออ่อนใต้ทะเล ดังนั้น บริษัทฯ จึงหยุดการปฏิบัติกิจกรรมที่บริเวณทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) ทันที และระดมทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินปฏิบัติการตอบโต้ทันที โดยการนำทุ่นกักน้ำมัน (Boom) มาล้อมบริณที่พบน้ำมัน ทำการฉีดพ่นสารขจัดคราบน้ำมันด้วยเรือ ใช้วัสดุดูดซับน้ำมันกลางทะเล (Absorbent Boom) ใช้เรือในการตีกวนน้ำเพื่อให้น้ำมันแตกตัว (Agitation) ส่งนักประดาน้ำลงสำรวจใต้น้ำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือภาคที่ 1 จัดเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นทำการฉีดพ่นสารขจัดคราบน้ำมันไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และจัดกำลังพลเข้าประจำพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง จ.ระยอง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์พร้อมตอบโต้กรณีได้รับแจ้งว่าพบคราบน้ำมันทั้งในทะเลและบริเวณชายหาด
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทฯ ได้รับรายงานว่า ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันดิบในบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) ยังคงพบฟิล์มน้ำมันบริเวณชายฝั่งและในทะเลเล็กน้อย จึงได้ระดมกำลังพลพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเข้าดำเนินการควบคุมฟิล์มน้ำมันได้อย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ร่วมกับกำลังพลจากกองทัพเรือ ยังคงจัดทีมติดตามและเฝ้าระวังทั้งในน้ำและแบบเคลื่อนที่เร็วบริเวณชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบโต้หากพบว่าได้รับแจ้งหรือพบว่ามีคราบน้ำบริเวณชายหาด ส่วนการดำเนินการดูแลสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างอากาศ น้ำทะเล และทราย เพื่อตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน
แม้ว่าการทำงานในครั้งนี้จะมีความยากและท้าทายหลายประการ แต่บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างรอบคอบ เป็นไปตามหลักวิศวกรรม และคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ ตระหนักดีว่า แม้บริษัทฯ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะลดผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดแล้ว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยังสร้างความเสียหายให้กับชุมชน การประมง ธุรกิจท้องถิ่น และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ ขอโทษและยินดีที่จะพิจารณาชดใช้ความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและสมเหตุสมผล และบริษัทฯ ขอยืนยันว่าจะปฏิบัติตามคำแนะนำและทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างเคร่งครัด หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบโดยเร็วที่สุด