โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เตรียม เปิดตัว Amata Command Center เพิ่มประสิทธิภาพด้านบริการ พร้อมนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ มาใช้เพื่อส่งเสริมความยังยืนด้านพลังงาน
มร. อาร์โนด์ เบียเลคกิ ประธานบริหาร บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2564 เป็นต้นไป บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด มีแผนที่จะอัปเดตการให้บริการในด้านต่างๆ ให้ทันสมัยและมีคุณภาพเพิ่มขึ้นไป โดยจะมีการเปิดตัว Amata Command Center (ACC) ใหม่ที่เพียบพร้อมด้านเทคโนโลยีและการบริการมากขึ้น
รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยอื่นๆ เพิ่มเติม ที่เชื่อมต่อไปยัง Amata Command Center (ACC) เช่น ระบบเตือนอัคคีไฟ (Fire Alarm Monitoring) ซึ่งมีทีมรักษาความปลอดภัยเตรียมพร้อมตอบรับต่อสัญญาณเตือน และมีการเชื่อมต่อระบบ AED Monitoring ภายในอมตะซิตี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์โดยทางโซเด็กซ์โซ่หุ้นส่วนผู้เชี่ยวชาญมาใช้เพื่อส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนและการใช้ทรัพยกรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
และสำหรับเป้าหมายของจำนวนผู้รับบริการจาก บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ในปี 2564 นั้น ตั้งเป้าหมายที่จะให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 140 ไซต์งาน ปี2566 จำนวน 340 ไซต์งาน และปี 2568 จำนวน 750 ไซต์งาน
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด มหาชน กล่าวว่า ปัจจุบันอมตะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีพื้นที่ 27,000 ไร่ สำหรับนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ชลบุรี มีจำนวนโรงงาน ถึง 700 โรงงาน และ 16,895 ไร่ สำหรับนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ระยอง มีจำนวนโรงงาน ถึง 356 โรงงาน จึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) เติบโตขึ้นในทุกๆ ปี
สำหรับการร่วมดำเนินธุรกิจกับ โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ภายใต้ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด นั้น ตลอดระยะเวลา 5 ปี เห็นได้ชัดเจนว่ามีการเติบโตทางธุรกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถตอบโจทย์การให้บริการในแบบ One Stop Service ที่ทางอมตะตั้งเป้าหมายไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอมตะเองไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้พัฒนาที่ดินและมองหาทำเลที่ดีสำหรับการธุรกิจเท่านั้น แต่ยังดูแลผู้ประกอบการในงานบริการงานด้านต่างๆ เช่น การวางแผน การบริหารจัดการ และการตลาดที่เกี่ยวข้องกับนิคมอุตสาหกรรมที่ครบวงจรให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ให้บริการในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางในนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น ก็ได้มีการให้บริการในส่วนของ Soft Service และ Facility Management เพิ่มเติมจากความร่วมมือกับทาง โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครบจบครบในที่เดียว
ทั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างรูปแบบธุรกิจของ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ไปยังนิคมอุตสาหกรรมอมตะในประเทศอื่นๆ เช่นเดียวกัน และอมตะจะยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อสอดรับกับการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งในยุค 4.0 ให้เป็นเมืองอัจฉริยะและศูนย์การเรียนรู้ในภูมิภาคนี้ รวมทั้งจะเป็นพื้นที่การลงทุนที่สมบูรณ์แบบในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)