หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) อุปกรณ์สำคัญในการปรับค่าแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งาน ส่งผลต่อคุณภาพกระแสไฟฟ้า อายุเครื่องมือและเครื่องจักร ซึ่งการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่ขาดคุณภาพส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้
ปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงงานหลายแห่งเป็นผลกระทบของการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่คุณภาพแย่หรือคุรสมบัติไม่ตรงตามความต้องการ ในหลายครั้งผู้ประกอบการเลือกของราคาถูก “พอใช้ได้” เป็นหลัก ทำให้เกิดเหตุการณ์ “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” ทำให้ต้องเกิดการซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง หรือทำให้สายการผลิตเกิดปัญหาส่งผลให้เกิดความล่าช้าและความเสียหายได้ ดังนั้นหากต้องเลือกใช้หม้อแปลงไฟฟ้าแล้วอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึง หรือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้านั้นมีคุณภาพที่ดี
1. การออกแบบ
การออกแบบที่ดีส่งผลต่อความทนทานในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นมุมกระทบของแรงที่เกิดขึ้น หรือการสูญเสียพลังงานที่เปล่าประโยชน์ เช่น หม้อแปลงที่พันทองแดงทรงสี่เหลี่ยมสามารถสูญเสียพลังงานได้มากกว่าและมีเสียงรบกวน ในขณะที่การพันแบบทรงกระบอกหรือทรงกลมนั้นทำงานได้เงียบกว่า มีอุณหภูมิที่เหมาะสมกว่า รวมถึงความเสี่ยงในการลัดวงจรที่น้อยกว่าด้วย ในผู้ผลิตบางรายที่การออกแบบมีศักยภาพอย่างมากสามารถได้รับมาตรฐานด้านพลังงานจาก Energy Star อีกด้วย (สำหรับคนที่อายุมากหน่อยสามารถนึกถึงตรา Energy Star เวลาเปิดคอมพิวเตอร์รุ่นโบราณได้ตอนที่ Boot เครื่องขึ้นมาหน้าจอแรก)
2. วัตุดิบ
การเลือกใช้วัตถุดิบให้เหมาะสมกับความต้องการสามารถลดความสูญเสียจากค่าใช้จ่ายที่เกินความต้องการได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบที่เหมาะสมกับงานไม่ว่าจะเป็นความต้านทาน ขนาดความหนา ศักยภาพความเหนี่ยวนำต่าง ๆ ส่งผลแตกต่างต่ออายุการใช้งานได้ชัดเจน
สำหรับในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต้องมีการออกแบบและใช้วัตถุดิบเพื่อรองรับปัญหาในอนาคต เช่น พื้นที่ซึ่งมีการพันสายทองแดงจะมีอุณหภูมิที่สูง ผู้ผลิตที่ใส่ใจจะทำการห่อหุ้มไว้ด้วย Kevlar สองถึงสามชั้นเป็นฉนวนป้องกัน ซึ่งผู้ผลิตบางรายที่ไม่ทำการห่อหุ้มอาจบอกกับคุณว่าต้องติดตั้ง Snubber เพิ่มเติมเพื่อใช้งานกับแรงดันไฟฟเ้าีท่สูงขึ้น แต่จะมีประโยชน์อะไรที่คุณต้องจ่ายเงินเพิ่มสูงขึ้นขนาดนั้นถ้าต้องซื้อของถูกแล้วซื้ออุปกรณ์เสริมที่จริง ๆ แล้วสามารถจัดการได้ด้วยวัสดุภายในและการออกแบบตั้งแต่ต้น
3. ความเชี่ยวชาญ
คุณภาพของหม้อแปลงไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญในการผลิต นั่นหมายถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นการพันสาย การตรวจหาจุดบกพร่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญอย่างมากในขณะที่ผู้คนมักมองข้ามไป
เพราะสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ ไม่ใช่ของราคาถูกแต่เป็นของที่คุมค้า ซึ่งความทนทานและคุณภาพของหม้อแปลงนั้นมีตัวแปร คือ ความเชี่ยวชาญของผู้ผลิต ซึ่งในกระบวนการผลิตอัตโนมัตินั้นเน้นไปที่ความรีบเร่งทำให้อาจมองข้ามหรือขาดความพิถีพิถันในบางจุด สุดท้ายความแตกต่างที่เกิดขึ้นในรายละเอียดเล็กน้อยที่ค่อย ๆ ผสมผสานกันจะส่งผลต่ออายุการใช้งานในระยะยาว
ในที่สุดแล้วค่าใช้จ่ายสำหรับหม้อแปลงอาจจะทำให้คุณตกใจได้ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาวคุณไม่ต้องเรียกช่างซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง หรือไม่ต้องพะวงกับการเสียเวลาวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่ยุ่งยาก หรืออาจแก้ไม่จบจนต้องตัดใจซื้อห้มอแปลงใหม่ก็เป็นได้
ที่มา:
- Machinedesign.com