ในปัจจุบันธุรกิจคลังสินค้าเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และการจัดเก็บสินค้านั้นก็ไม่ได้มีไว้เพื่อการจำหน่ายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการจัดเก็บอุปกรณ์ เครื่องมือ วัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในขั้นตอนการผลิตหรือแปรรูปอีกด้วย การออกแบบระบบหรือพื้นที่การจัดเก็บสินค้าที่ดีและมีประสิทธิภาพจึงส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการผลิต ความปลอดภัยในการทำงาน ไปจนถึง Productivity ในภาพใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีอัตโนมัติต่าง ๆ จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดการพึ่งพาแรงงาน ทดแทนทักษะที่ขาดหาย เพิ่มความสม่ำเสมอในกระบวนการต่าง ๆ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือเพื่อเสริมโครงสร้างแนวคิดที่แข็งแกร่งเท่านั้น การเข้าใจถึงปัญหาและเงื่อนไขที่มีในการจัดเก็บสินค้าจึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องเกิดขึ้น ไม่ใช่การเลือกใช้เทคโนโลยีหรือโซลูชันโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยรวมถึงไม่อาจมองเห็นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
3 ปัจจัยสำคัญเพื่อยกระดับมูลค่าการทำงานด้วยการจัดเก็บสินค้า
การจัดเก็บสินค้านั้นไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บสินค้าในคลังขนาดใหญ่เพื่อส่งออก หรือเป็นการจัดเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ในกระบวนการผลิต สิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าปริมาณในการรองรับของพื้นที่ คือ การนำสินค้าเข้าและออก ซึ่งสิ่งนี้จะสัมพันธ์กับเงื่อนไขหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของสินค้า การรองรับปริมาณสินค้าที่เหมาะสม ไปจนถึงความเข้าใจต่อเงื่อนไขการจัดเก็บต่อประเภทของสินค้า อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดการใช้งานพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงมีเงื่อนไขหลัก ๆ ที่ต้องพิจารณาให้ดีอยู่ 3 ประการ ได้แก่
พื้นที่จัดเก็บสินค้า
พื้นที่นั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการจัดเก็บสินค้าหรือเครื่องมือ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการใช้งานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นขนาดพื้นที่ ความหนาแน่น เลย์เอาต์การจัดวาง สำหรับคลังสินค้าที่มีพื้นที่จำกัด การรองรับสินค้าได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิมเป็นประเด็นที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ แต่ในแง่ของพื้นที่จัดเก็บเครื่องมือในสายการผลิตการใช้พื้นที่น้อยลงแต่สามารถเก็บของได้มากขึ้นก็จะเปิดโอกาสให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่ลดลงไปได้เช่นกัน ดังนั้นการบริหารจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา
ความสะดวกรวดเร็ว
นอกเหนือจากพื้นที่แล้วอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญ คือ ประสิทธิภาพที่เกิดจากการใช้งานพื้นที่นั้น ๆ การนำสินค้าเข้าและออกที่รวดเร็วถือเป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการใช้งานคลังสินค้าและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคลังจัดเก็บอุปกรณ์ โรงงานหลายแห่งอาจใช้ระบบอัตโนมัติ AGV หรือสายพานลำเลียงซึ่งสามารถเพิ่มความรวดเร็วได้จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความต้องการของโรงงาน ขนาดตลาดที่ต้องเผชิญ ไปจนถึงต้นทุนที่ต้องแบกรับ ความสะดวกรวดเร็วที่เกิดขึ้นได้จริงจึงต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ความปลอดภัย
แม้ว่าความปลอดภัยอาจไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จหรือการเติบโตโดยตรง แต่ความปลอดภัยถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้ว่าการทำงานจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีพื้นที่จำนวนมากให้ใช้ หากการทำงานอยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงของผู้ดำเนินการหรือความปลอดภัยของสินค้าที่ถูกจัดเก็บ เช่น วัสดุไวไฟ หรือชิ้นส่วนที่อ่อนไหวต่อความชื้น ปัจจัยเหล่านี้ก็จะเป็นตัวขัดขวางการเติบโต และซ้ำร้ายที่สุดอาจทำให้กิจการต้องปิดตัวลงหากเกิดการทำงานที่ไม่ปลอดภัยขึ้น
รู้หรือไม่ว่าข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2563 เผยให้เห็นถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานประจำปีทั้งหมด 54 ครั้ง โดยมีสาเหตุสำคัญ คือ อัคคีภัย นับเป็นจำนวน 42 ครั้ง หรือ 78% รองลงมาเป็นเครื่องจักร 3 ครั้ง การระเบิด 2 ครั้ง สารเคมีรั่วไหล 1 ครั้ง และสาเหตุอื่น ๆ 6 ครั้ง ซึ่งปัญหาอัคคีภัยเองสามารถเกิดได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร อุณหภูมิที่สูงเกินไป ฯลฯ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่สะดวกรวดเร็วแค่ไหน หรือพื้นที่เป็นอย่างไร ความปลอดภัยต้องถูกพิจารณาเป็นพื้นฐานควบคู่กันไป
เพื่อเอาชนะความท้าทายในข้อจำกัดต่าง ๆ ของธุรกิจ โดยเฉพาะขนาดของพื้นที่ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัย Kardex Remstar ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันและเทคโนโลยีสำหรับคลังสินค้าชั้นนำของโลกจึงได้พัฒนาโซลูชันสำหรับจัดเก็บสินค้าแนวตั้ง หรือที่เรียกกันว่า Vertical Lift Module (VLM) ขึ้นมา เพื่อตอบสนองต่อปัจจัยสำคัญในการใช้งานทั้ง 3 ข้อด้วยโซลูชันในซีรีย์ Kardex Shuttle XP การจัดเก็บสินค้าจึงเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีปริมาณความจุที่เหลือเชื่อในพื้นที่อันจำกัด
Kardex Shuttle XP โซลูชันจัดเก็บสินค้าแนวตั้งสำหรับพื้นที่จำกัด
Kardex Shuttle XP นั้นมาพร้อมกับการใช้งาน 3 รุ่น ได้แก่ Kardex Shuttle XP 250/500, Kardex Shuttle XP 700 และ Kardex Shuttle XP 1000 ซึ่งรุ่นสุดท้ายนั้นสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 1 ตันต่อชั้น ในขณะที่รุ่นเล็กอย่าง Kardex Shuttle XP 250/500 นั้นรองรับโหลดได้ถึง 560 กิโลกรัมต่อชั้น
การทำงานของ Kardex Shuttle XP นั้นจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บแนวตั้ง หรือจะว่ายิ่งสูงยิ่งเก็บได้เยอะก็ไม่ผิดเพราะรองรับการใช้งานสูงสุดถึง 30 เมตร ภายในจะมีถาดซึ่งเป็นชั้นสำหรับจัดวางสินค้าอยู่ภายในทำให้สามารถบริหารจัดการชนิดสินค้าได้ง่าย สามารถนำสินค้าเข้าและออกได้อย่างรวดเร็วผ่านหน้าจอสั่งการ แตกต่างจากคลังสินค้าทั่วไปที่ต้องเดินไปหยิบ อาจจะต้องปีนป่าย หรือใช้ฟอร์คลิฟท์เพื่อเข้าถึง แต่ Kardex Shuttle XP สามารถสั่งให้ชั้นสินค้าที่ต้องการมาหยุดตรงหน้าเพื่อหยิบใช้งานได้เลย หรือจะบูรณาการเข้ากับแขนกลระบบอัตโนมัติก็ได้ไม่ติดขัด การดูแลคลังสินค้าจึงใช้จำนวนคนที่น้อยลงและลดระยะเวลาในการดำเนินการได้อย่างมาก เปลี่ยนเวลาการทำงานเหล่านั้นเป็นเวลารอคอยที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที
ขอยกตัวอย่างสายการประกอบยานยนต์ที่จะต้องมีการหยิบชิ้นส่วนอะไหล่ เครื่องมือ หรือนอตต่าง ๆ ซึ่งจะต้องเบิกจากคลังสินค้า ระยะเวลาการรอคอย การค้นหากระบวนการต่าง ๆ อาจต้องดำเนินการล่วงหน้าเป็นระยะเวลานาน หากเกิดกรณีฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับเวลาอันจำกัดขึ้นมาก็ไม่อาจตอบสนองได้ทัน Kardex Shuttle XP ซึ่งใช้พื้นที่น้อย มีการใช้งานที่เรียบง่าย ทำงานได้สะดวกรวดเร็ว จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมยิ่งกว่า เพราะสามารถติดตั้งไว้ได้ในพื้นที่การประกอบโดยไม่ต้องใช้พื้นที่จำนวนมากหรือต้องใช้เวลาค้นหานาน เปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์เดิม ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกไม่น้อย
แน่นอนว่าคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Kardex Shuttle XP นั้นยังมีอีกมาก แต่จุดเด่นในการใช้งานที่เรียกว่าโดดเด่นไม่แพ้ใครในตลาด และอยากจะบอกให้ผู้อ่านได้รู้เพื่อเป็นตัวเลือกสำคัญในการเฟ้นหาโซลูชัน มีดังนี้
- Kardex Shuttle XP สามารถประหยัดพื้นที่ในโรงงานและคลังสินค้าได้มากถึง 85%
- เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำถึง 99%
- รองรับโหลดสูงสุดถึง 1,000 กิโลกรัมต่อชั้น
- เข้าถึงสินค้าหรืออุปกรณ์ที่ต้องการได้ในเวลาเพียง 40 วินาที
- มาพร้อมตัวเลือกด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น ตัวควบคุมตรวจสอบอุณภูมิสำหรับ Clean Room หรืออุปกรณ์ระบุตำแหน่งการจัดวาง เป็นต้น
- สามารถปรับแต่งขยายพื้นที่จัดเก็บได้ตามต้องการในภายหลัง
การใช้งาน Kardex Shuttle XP นั้นแรงงานไม่จำเป็นต้องเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่คลังสินค้าที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บหรือนำสินค้าออกความปลอดภัยที่เกิดขึ้นก็ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุด หรือในกรณีที่ต้องการใช้งานฟอร์คลิฟท์ก็สามารถปรับแต่งให้สามารถใช้งานสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากได้อีกด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่า Kardex Shuttle XP นั้นตอบสนองต่อเงื่อนไขปัจจัยทั้ง 3 ข้อ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ความสะดวก หรือความปลอดภัยในการใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งเพิ่มพื้นที่ภายหลังหรือการใช้งานร่วมกับโซลูชันอื่น ๆ
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันการจัดเก็บสินค้าแนวตั้ง Kardex Shuttle XP จาก Kardex Remstar สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Store Master ตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะโดยตรงจากเจ้าของเทคโนโลยี พร้อมให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญเคียงข้างกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับความสามารถในการทำงานจากการจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ สร้าง Work Flow และการเติบโตที่ดีให้กับธุรกิจ
สนใจโซลูชันจัดเก็บสินค้าแนวตั้ง Kardex Shuttle XP ติดต่อ:
Store Master Co., Ltd.
โทรศัพท์: 02-988-5460, 081-890-1597
Email: [email protected]
Website: www.storemaster.co.th, www.kardex.com