จากมาตรการ Zero Covid ของประเทศจีนที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก ทำให้ Apple ต้องเลือกลดการพึ่งพาจากจีนและเปลี่ยนมาลงทุนเสริมฐานการผลิตในประเทศอินเดียแทน
- สหภาพยุโรปกำหนดวัน เตรียมผู้ผลิตเปลี่ยนมาใช้ USB-C ในปี 2024
- Apple ประกาศลดการปล่อยคาร์บอนทั้ง Supply chain ภายในปี 2030
แต่สถานการณ์ก็ดูจะไม่ราบรื่นดีนัก เมื่อรายงานล่าสุดได้ระบุว่า Apple กำลังเผชิญกับอุปสรรคใหม่ที่ทำให้การเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศอินเดียเป็นไปได้อย่างยากลำบาก
โรงงานในอินเดียเกิดข้อบกพร่องในการผลิตมากถึง 50%
รายงานจากเว็บไซต์ Reuters ได้ระบุว่าโรงงานผลิตชิ้นส่วนของ Apple ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอินเดียซึ่งถูกดูแลโดย Tata Group กลุ่มบริษัทข้ามชาติในอินเดีย สามารถทำการผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพดีพอจะส่งต่อไปยัง Foxconn หรือซัพพลายเออร์ของ Apple ได้เพียง 50% หรือครึ่งหนึ่งเท่านั้นจากปริมานการผลิตทั้งหมด
ซึ่งตัวเลข 50% ของชิ้นส่วนที่ผลิตได้นี้ไม่สามารถตอบโจทย์ Zero defects ของ Apple ที่ไม่ต้องการให้เกิดข้อบกพร่องในการผลิตได้ และนอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าปัจจัยเพิ่มเติมที่ส่งผลให้การขยายกำลังการผลิตในประเทศอินเดียเป็นไปได้อย่างล่าช้านั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาด้านโครงสร้าง ด้านภาษีศุลกากรและด้านโลจิสติกส์
แต่ในช่วงท้ายปีที่แล้วนั้น ทางหุ้นส่วนอย่าง Foxconn ก็ยังมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาการผลิตที่ชะลอตัวลงจากมาตรการในประเทศจีนได้ด้วยการเตรียมพิจารณารับสมัครพนักงานในอินเดียเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าภายในช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิต iPhone ในประเทศอินเดียสามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
สำหรับในตอนนี้ทาง Apple และ Tata Group ก็ยังไม่ได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานเหล่านี้ แต่คงบอกได้ว่าภายในช่วงปีนี้ Apple คงต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย ทั้งจากการขยายฐานการผลิตในอินเดียและการต้องเปลี่ยนไปพัฒนา iPhone ที่รองรับ USB Type-C แทนตามข้อบังคับของรัฐสภายุโรป เรียกได้ว่า Apple คงจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์เหล่านี้ไปได้