Hyundai และ Kia ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลียินยอมชดใช้เงินเป็นจำนวนกว่า 200 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีฟ้องร้องจากผู้ใช้ที่ระบุว่ารถยนต์และรถ SUVs ของ Hyundai และ Kia ถูกโจรกรรมได้ง่ายเกินไป
- ยอดจดทะเบียนรถไฟฟ้าพุ่งต่อเนื่อง 3 เดือนติด
- Hyundai เปิดตัวแขนกล ACR สำหรับชาร์จ EV แบบอัตโนมัติ
- รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนจาก Hyundai ทางเลือกใหม่การขนส่ง
โดยข้อตกลงที่เกิดขึ้นนี้จะครอบคลุมเจ้าของรถยนต์กว่า 9 ล้านคน และจะทำการชดเชยเงินจำนวน 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ผู้ที่ถูกขโมยรถไป ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบป้องกันการขโมยเพิ่มเติมแล้วจะทำให้ค่าชดเชยทั้งหมดอาจมากถึง 200 ล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับจำนวนเจ้าของรถยนต์ที่มีส่วนในการฟ้องร้อง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ CNN ได้ระบุว่าสาเหตุของการฟ้องร้องในครั้งนี้ก็มาจากรถยนต์ในรุ่นปี 2015-2019 ของ Hyundai และ Kia เช่น Hyundai Santa Fe, Tucson, Kia Forte และ Sportage ที่ใช้กุญแจแบบเสียบที่คอพวงมาลัย (Turn-key ignitions) สามารถถูกสตาร์ตได้ด้วยการใช้แค่สาย USB เท่านั้น
ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นต้นกำเนิดของ Kia Challenge ที่กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงปี 2022 ซึ่งส่งผลให้รถยนต์ของ Kia และ Hyundai เกิดอัตราการถูกโจรกรรมขึ้นหลายร้อยครั้งในสหรัฐอเมริกาและมีหลายเหตุการณ์ที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นมาจากการพยายามขโมยรถยนต์ตามแชลเลนจ์นี้
รถยนต์เหล่านี้ขาดเทคโนโลยีการป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ขั้นพื้นฐานที่รวมอยู่ในยานพาหนะอื่นๆ ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ผลกระทบจากความง่ายในการถูกโจรกรรมยังทำให้ผู้ใช้รถยนต์หลายรายถูกพิจารณายกเลิกสิทธิ์การจ่ายสินไหมจากประกันภัยอีกด้วย
ในส่วนของการชดเชยค่าเสียหายจาก Hyundai และ Kia ต่อเจ้าของรถที่ถูกขโมยไปนั้น จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดที่ 6,125 ดอลลาร์สหรัฐ (~ 210,000 บาท) รวมกับค่าชดเชยการสูญเสียของทรัพย์สินส่วนบุคคลอีก 3,375 ดอลลาร์ (~ 116,000 บาท) นอกจากนี้การชดเชยยังอาจรวมไปถึงการชำระเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และยังมีข้อเสนอในการติดตั้งระบบป้องกันการโจรกรรมให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย