การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การใช้พลังงานสะอาดและการพยายามลดการปล่อยคาร์บอนในสายการผลิตนั้นอาจฟังดูเป็นเรื่องท้าทายสำหรับโรงงานหลาย ๆ แห่ง ทั้งต้นทุนที่ต้องใช้และความเสียเปรียบที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกใช้แหล่งพลังงานสะอาดที่หาได้ยากกว่า
แต่ผลจากการศึกษาล่าสุดกลับชี้ให้เห็นว่าความพยายามที่จะลดการปล่อยคาร์บอนในของภาคอุตสาหกรรมหลายประเภทของทวีปยุโรปในช่วงปี 2018 – 2021 นั้นกลับช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทเหล่านี้ได้มากขึ้นกว่าเดิม
- ‘de:karb’ หนทางใหม่ลดการปล่อยคาร์บอนในการผลิตโลหะแผ่น
- Amazon, Meta, Google ขึ้นแท่นซื้อพลังงานสะอาดมากที่สุดในอเมริกา
- Apple ประกาศลดการปล่อยคาร์บอนทั้ง Supply chain ภายในปี 2030
โดยข้อมูลจากองค์กรประเมินความยั่งยืนที่มีมาตรฐานความน่าเชื่อถือในระดับสากล Carbon Disclosure Project organization (CDP) ได้ระบุว่างานวิจัยในครั้งนี้เป็นความพยายามวิเคราะห์ว่าบริษัทอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ได้มีความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นได้ส่งผลให้เกิดข้อเสียเปรียบต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเหล่านี้ขึ้นหรือไม่
การศึกษาดังกล่าวพบว่าในช่วงปี 2018 – 2021 ที่ผ่านมา บริษัทภายในโซนทวีปยุโรปกว่า 840 แห่งจากภาคอุตสาหกรรม 17 กลุ่มซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมได้โดยเฉลี่ยกว่า 14% นั้น พบว่าบริษัทเหล่านี้มียอดขายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 8%
โดย CDP ได้ระบุว่าแม้ข้อมูลดังกล่าวจะไม่ได้ถูกปรับคำนวณตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่ข้อมูลจากช่วงปี 2018 – 2019 นั้นถูกประเมินว่ามีความใกล้เคียงกับช่วงเวลาก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ข้อมูลของอัตราเงินเฟ้อจากช่วงปีเหล่านี้รวมไปถึงช่วงที่โควิด-19 มีการระบาดหนักจึงไม่ถูกนับรวมเข้ามา
ข้อสรุปเหล่านี้เป็นเหตุผลให้ผู้เชี่ยวชาญสรุปได้ว่ามาตรการที่ใช้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้จะไม่ทำให้บริษัทในภาคอุตสาหกรรมของคุณต้องเกิดข้อเสียเปรียบขึ้นแต่อย่างใด กลับกันแล้วช่วงเวลานี้ต่างหากที่ถือเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทอุตสาหกรรมจะต้องเริ่มพยายามลดการปล่อยคาร์บอนในสายการผลิตของตัวเองลงเพื่อให้สอดคล้องต่อมาตรฐานด้านความยั่งยืนที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นทั่วโลกของเรา
ที่มา : MaschinenMarkt