ทีมวิศวกรและนักวิจัยจาก Korea Advanced Institute of Science & Technology (KAIST) ได้เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์ Humanoid Robot ที่สามารถทำการบินเครื่องบินได้โดยไม่ต้องดัดแปลงห้องนักบิน
โดยหุ่นยนต์ในชื่อ ‘Pibot’ นี้สามารถควบคุมแขนและนิ้วของตนเพื่อควบคุมอุปกรณ์ในห้องนักบินได้อย่างแม่นยำไม่ต่างจากนักบินทั่วไปและสามารถทำการบินได้แม้ว่าเครื่องบินจะมีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก็ตาม
- Airbus ร่วมจีนสาธิตการบินเฮลิคอปเตอร์ด้วยเชื้อเพลิง SAF
- ARTEMIS หุ่นยนต์ Humanoid Robot ที่เดินเร็วที่สุดในโลก !
- ‘Optimus’ หุ่นยนต์ Humanoid Robot แห่งอนาคตจาก Tesla
บินอย่างปลอดภัยด้วยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยี LLM
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Euronews ได้ระบุว่า Pibot นั้นสามารถทำความเข้าใจและจดจำคู่มือสำหรับการบินที่เดิมทีได้ถูกเขียนขึ้นสำหรับมนุษย์ได้ด้วยความช่วยเหลือของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model – LLM)
เทคโนโลยี LLM ที่พัฒนาขึ้นอย่างมากในปัจจุบันอย่าง ChatGPT นั้นช่วยให้ Pibot สามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัยและยังตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ทั่วไปอีกด้วย นอกจากนี้ Pibot ยังสามารถคำนวณเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดแบบเรียลไทม์ได้ในขณะที่ทำการบินอยู่และทำความเข้าใจ Natural Language ได้
โดยนอกจากระบบประมวลผลเหล่านี้แล้ว Pibot ยังมาพร้อมกล้องภายนอกที่ช่วยให้ Pibot สามารถทำการตรวจสอบสถานะปัจจุบันของเครื่องบินได้ และกล้องภายในสำหรับการจัดการสวิตช์ที่จำเป็นบนแผงควบคุม อีกทั้งหน่วยความจำของ Pibot ยังมีขนาดใหญ่มากจนสามารถจดจำแผนภูมิการนำทางการบินของ Jeppesen ทั้งหมดทั่วโลกได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับนักบินที่เป็นมนุษย์
ลดความเสี่ยงของนักบินมนุษย์
อีกหนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจของ Pibot ก็คือความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับพาหนะเพื่อสื่อสารกับเครื่องบินโดยตรงได้ นอกจากนี้ Pibot ยังสามารถสื่อสารกับผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศและมนุษย์ในห้องนักบินได้ผ่านระบบเสียงสังเคราะห์ Pibot จึงสามารถรับหน้าที่ได้ทั้งการเป็นนักบินและผู้ช่วยนักบิน แม้ว่าในปัจจุบันทางทีมวิจัยจะตั้งใจนำ Pibot มาใช้ในสถานการณ์รุนแรงเพื่อลดความเสี่ยงแทนนักบินมนุษย์ก็ตาม
โดยปัจจุบันโครงการวิจัยนี้ได้รับการมอบหมายและสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่รับผิดชอบด้านการวิจัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ทำให้ Pibot นั้นอาจจะมีบทบาทในทางทหารได้อีกด้วย
ทางทีมนักวิจัยยังระบุว่าการออกแบบ Pibot ให้มีรูปร่างแบบมนุษย์ ด้วยส่วนสูง160 ซม. และน้ำหนัก 65 กก. ทำให้ในอนาคต Pibot อาจจะมีบทบาทในการเข้ามาแทนที่มนุษย์ในการขับขี่รถยนต์ รถถังหรือเรือได้ ซึ่งในส่วนของการพัฒนานั้นทางทีมก็ได้คาดการณ์ว่า Pibot จะพร้อมใช้งานจริงได้ภายในปี 2026 นั่นเอง