Gartner ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาสำหรับภาคธุรกิจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีสำหรับงานกลุยทธ์ที่องค์กรต้องค้นหาในปี 2024 ซึ่งเป็นการนำเสนอผ่านเวที Gartner IT Symposium/Xpo
การแข่งขันของธุรกิจในยุคปัจจุบันเรียกได้ว่าตั้งอยู่บนความไม่แน่นอนด้วยความท้าทายที่เกิดขึ้นจากทั้งการเติบโตของเทคโนโลยีอันรวดเร็ว และความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจสังคมภายใต้เงื่อนไขที่หลากหลาย การหันมาใช้เทคโนโลยีจึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการเอาชนะความท้าทายในยุคปัจจุบัน โดย Gartner ได้นำเสนอเทรนด์ด้านเทคโนโลยีสำคัญสำหรับกลยุทธ์ขององค์กรที่ต้องจับตาดังนี้
1. Democratized GenAI
Generative AI หรือ GenAI นั้นจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นด้วยการบรรจบกันของโมเดลที่ถูกเทรนมาก่อน Cloud Computing และ Open Source ทำให้โมเดลเหล่านี้สามารถถูกเข้าถึงได้โดยแรงงานทั่วโลก Gartner คาดว่าในปี 2026 กว่า 80% ขององค์กรจะใช้ GenAI API และโมเดล หรือ แอปพลิเคชันที่รองรับ GenAI ในสภาพแวดล้อมการผลิตจากที่น้อยกว่า 5% ในปี 2023 ซึ่งการนำมาใช้นี้จะช่วยให้ความรู้และทักษะในองค์กรนั้นเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
2. การบริหารจัดการความเชื่อมัน ความเสี่ยง และความปลอดภัยของ AI
การมีประชาธิปไตยในการเข้าถึง AI ทำให้ความต้องการของ AI TRiSM หรือ AI Trust, Risk and Security Management นั้นมีความเร่งด่วนและชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากไม่มีการป้องกันที่ดีโมเดล AI สามารถสร้างผลกระทบเชิงลบที่นอกเหนือการควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนมองไม่เห็นถึงข้อดีและประโยชน์ที่ได้จากการใช้งาน AI ได้อย่างง่ายดาย AI TRiSM จะเป็นเครื่องมือสำหรับ ModelOps, การป้องกันข้อมูลเชิงรุก, ความปลอดภัยเฉพาะ AI, Model Monitoring และการควบคุมความเสี่ยงของ Input และ Output สำหรับโมเดล 3rd Party และแอปพลิเคชัน Gartner คาดว่าภายในปี 2026 การบูรณาการ AI TRiSM นั้นจะเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจด้วยการลดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือผิดกฎหมายได้ 80%
3. การพัฒนา AI-Augmented
การพัฒนา AI-Augmented นั้นเป็นการใช้เทคโนโลยี AI เช่น GenAI และ Machine Learning เพื่อสนับสนุนวิศวกรซอฟต์แวร์ในการออกแบบ, Coding และการทดสอบแอปพลิเคชัน ซึ่งการสนับสนุนวิศวกรรมซอฟต์แวร์ด้วย AI จะยกระดับ Productivity ของผู้พัฒนาและทีมให้สอดรับกับความต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ในตลาดเพื่อทำธุรกิจซึ่งเพิ่มมากขึ้นได้ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยลดระยะเวลาที่วิศวกรซอฟต์แวร์ใช้ในการเขียน Code เปิดโอกาสให้สามารถใช้เวลากับกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ได้มากยิ่งขึ้น เช่นการออกแบบ หรือส่วนประกอบที่ต้องใช้ในแอปพลิเคชันของธุรกิจต่าง ๆ
4. แอปพลิเคชันอัจฉริยะ
แอปพลิเคชันอัจฉริยะซึ่ง Gartner ได้นิยามเอาไว้ว่า มีการเรียนรู้ปรับตัวเพื่อตอบสนองโดยอัตโนมัติให้เหมาะสม ความฉลาดนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายกรณีเพื่อขยายความสามารถ (Augment) และทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะต้องมีการส่งมอบประสบการณ์ีท่มีพลวัตรประยุกต์ให้เข้ากับผู้ใช้งาน 26% ของ CEO จากแบบสอบถาม 2023 Gartner CEO and Senior Business Executive Survey มองว่าเกิดการขาดแคลนคนเก่ง (Talent) ได้กลายเป็นความเสี่ยงมากที่สุดสำหรับองค์กร ซึ่งการดึงดูดคนเก่งได้กลายเป็นความสำคัญลำดับต้น ๆ ในขณะที่ AI ได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมมากที่สุดในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้
5. กลยุทธ์แรงงาน Augmented-Connected
Augmented-Connected Workforce (ACWF) เป็นกลยุทธ์ที่จะ Optimize คุณค่าที่จะเกิดจากแรงงานให้ได้มากที่สุด ความต้องการในการเพิ่มความเร็วและเพิ่มจำนวนคนเก่งในองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันเทรนด์ ACWF โดย ACWF จะใช้แอปพลิเคชันอัจฉริยะและการวิเคราะห์แรงงานเพื่อการสนับสนุนและชี้นำในบริบทแต่ละวัน สร้างประบการณ์ ความเป็นอยู่ที่ดี และทักษะในการพัฒนาความสามารถของตัวเอง Gartner คาดว่า 25% ของ CIO จะใช้ ACWF เพื่อลดเวลาในการเฟ้นหาความสามารถกว่า 50% สำหรับหน้าที่สำคัญภายในปี 2027
6. การจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง
Continuous Threat Exposure Management (CTEM) เป็นทั้งระบบและแนวทางปฏิบัติที่อนุญาตให้องค์กรสามารถประเมินคุณค่าในการเข้าถึง การเปิดเผย และการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์องค์กรไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลหรือกายภาพอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ทำให้สามารถจำกัดขอบเขตภัยที่อาจเกิดขึ้นหรือโครงการธุรกิจได้ ซึ่งทำได้มากกว่าส่วนประกอบโครงสร้างพื้นฐานหรือเพียงผิวหน้า ไม่ใช่เพียงแต่ช่องโหว่เท่านั้นแต่รวมถึงภัยที่ไม่อาจแยกออกมาหรือแก้ไขได้อีกด้วย Gartner คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรจะให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านความปลอดภัยที่มีพื้นฐานบน CTEM ซึ่งช่วยลดการรั่วไหลได้กว่า 2 ใน 3
7. Custobots
Custobots หรือ Machine Customers เป็นตัวละคนทางเศรษฐกิจที่ไม่ใช่มนุษย์ที่สามารถเจรจาและซื้อสินค้าได้อัตโนมัติรวมถึงบริการในการแลกเปลี่ยนสำหรับการจ่ายเงิน Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2028 จะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำการเชื่อมต่อกว่า 15,000 ล้านอุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนลูกค้าเกิดขึ้นและมีอีกเป็นพันล้านที่จะตามมาในปีต่อ ๆ ไป เทรนด์การเติบโตนี้มีเม็ดกว่าล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2030 และจะทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นจากการมาถึงของ Digital Commerce
8. เทคโนโลยีด้านความยั่งยืน
เทคโนโลยีด้านความยั่งยืนนั้นเป็น Framework สำหรับโซลูชันดิจิทัลที่ใช้สร้างสมดุลทางเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชนผ่านแนวคิด ESG ในระยะยาว การใช้เทคโนโลยีอย่าง AI, เงินคริปโต, IoT และ Cloud Computing ขับเคลื่อนความกังวลการบริโภคพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นชัดเจนว่าการใช้เทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพ เกิดการหมุนเวียนและยั่งยืน Gartner คาดว่า 25% CIOs จะเห็นว่าค่าตอบแทนส่วนบุคคลของพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านเทคโนโลยีด้านความยั่งยืนในปี 2027
9. แพลตฟอร์มวิศวกรรม
แพลตฟอร์มสำหรับวิศวกรรมนั้นประเด็นพื้นฐานในการสร้างและการดำเนินการดูแลการพัฒนาแพลตฟอร์มภายในองค์กร แต่ละแพลตฟอร์มจะเป็น Layer สร้างและดูแลโดยทีมผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง ออกแบบเพื่อสนับสนุนความต้องการของผู้ใช้ด้วยหน้าจอการใช้งานที่มาพร้อมเครื่องมาและกระบวนการ เป้าหมายของวิศวกรรมแพลตฟอร์มเพื่อ Optimize ผลิตภาพ รวมถึงประสบการณ์ผู้ใช้และเพิ่มความสามารถในการส่งมอบคุณค่าขององค์กร
10. แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรม
Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2027 70% ขององค์กรจะใช้ Industry Cloud Platforms (ICPs) เพื่อเร่งความคิดริเริ่มทางธุรกิจขึ้นจาก 15% ในปี 2023 โดย ICPs จะระบุผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโดยการผสมผสาน SaaS, PaaS และ IaaS เข้าไปยังผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทำให้เกิดทางเลือกช้งานคุณสมบัติต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้รวมถึง Data Fabric ในอุตสาหกรรม Library ของชุดข้อมูลในธุรกิจ เครื่องมือในการประกอบและนวัตกรรมด้านแพลตฟอร์มอื่น ๆ ICPs เป็นคลาวด์ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะให้กับอุตสากรรมนั้น ๆ และสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการขององค์กรได้
ที่มา:
gartner.com
พบกับ สุดยอดองค์ความรู้เพื่อผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล
AUTOMATION SUMMIT 2023
12 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00-18.00 น.
ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 กรุงเทพมหานคร
ลงทะเบียนเข้าร่วมฟรี คลิก!