MPI ไตรมาสแรกปี 65 ขยายตัวร้อยละ 1.41 คาดเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังการส่งออกรวมเดือนมีนาคมขยายตัวร้อยละ 19.54 สูงสุดในรอบ 30 ปี สอดรับตลาดภายในประเทศฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศ
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ 109.32 ปรับตัวลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 7.49 ส่งผลให้ MPI ไตรมาสแรกปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 1.41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ สศอ.ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากสัญญาณการส่งออกรวมเดือนมีนาคมขยายตัวร้อยละ 19.54 สูงสุดในรอบ 30 ปี และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม(ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถังและอากาศยาน) เดือนมีนาคมขยายตัวร้อยละ 7.26 ซึ่งมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 20,705 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบกับการนำเข้าสินค้าทุน สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) เดือนมีนาคมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.66 และ 11.52 ตามลำดับ เพื่อจัดเตรียมการผลิตต่อไป
KR 4 AGILUS หุ่นยนต์ผู้ช่วยที่ดีในสายการผลิต หยิบวางประกอบอย่างแม่นยำ ติดตั้งได้ 360° | KUKA [SS]
นายทองชัย กล่าวว่า การเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ รวมถึงนโยบายการเปิดประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทำให้อุปสงค์ในประเทศทยอยฟื้นตัว สะท้อนได้จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทส่งผลดีต่อภาคการส่งออกทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ในขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบของรัสเซียและยูเครนได้ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงานและค่าขนส่ง
ด้านภาพรวมสถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม สะท้อนได้จากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเดือนมีนาคมขยายตัวที่ร้อยละ 10.4 เร่งตัวขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวที่ร้อยละ 8.0
อย่างไรก็ดี สศอ. ได้ใช้เครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (The Early Warning System Industry Economics : EWS-IE) ในการคำนวณ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า อุปสงค์ในประเทศและการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าทยอยฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้มีความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังต้องจับตาดูสถานการณ์ของรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเป็นตัวเร่งให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตส่งผลบวกในเดือนมีนาคม 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
น้ำตาล ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 61.25 เนื่องจากผลผลิตอ้อยที่มีปริมาณมากกว่าปีก่อน รวมถึงการปิดหีบช้ากว่าปีก่อน
น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.51 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันเบนซิน 95 เป็นหลัก เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ รวมถึงมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาลที่กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น
- สศอ. เผย MPI เดือน ก.พ. ขยายตัวร้อยละ 2.75
- สศอ.เผย MPI เดือน ม.ค. ขยายตัวร้อยละ 1.99
- MPI เดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.49
- MPI เดือน ก.ค. ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.86 จากผลิตภัณฑ์รถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดกลาง เครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก โดยขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศหลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รวมถึงราคาพืชผลเกษตรสำคัญหลายรายการปรับตัวสูงขึ้น
ปุ๋ยเคมี ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26.17 เนื่องจากเกษตรกรได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกหลังราคาพืชผลเกษตรสำคัญหลายรายการปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ข้าว น้ำมันปาล์ม ฯลฯ
เบียร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.33 เป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและอนุญาตให้มีการจำหน่ายในร้านอาหารและสถานบริการมากขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการได้สั่งซื้อเพื่อเก็บสต๊อกก่อนที่ผู้ผลิตจะปรับขึ้นราคา