นิคมฯ “Smart Park” มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี 2593
นิคมฯ “Smart Park” มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี 2593

นิคมฯ “Smart Park” มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี 2593

Date Post
11.05.2022
Post Views

กนอ. ประกาศเจตนารมณ์ให้นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่อนุญาตให้มีปล่องระบายมลพิษทางอากาศ เน้นย้ำความเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สอดรับเป้าหมายการดำเนินงานลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ

นายนรินทร์  กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ กนอ.(บอร์ด กนอ.) กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้ต้องบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 ผ่านการดำเนินกิจกรรมด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว ด้วยการยกระดับมาตรฐานการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม โดยเป็นผู้นำในการลดก๊าซเรือนกระจก สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในหลายมิติ เช่น การส่งเสริมการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการจัดทำมาตรการหรือสิทธิประโยชน์เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ประกอบการ 

Industrial Products & B2B Products | รู้จักประเภทสินค้าอุตสาหกรรมช่วยให้ทำการตลาดชัดขึ้น | TEEREX

“การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park ในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ จะก้าวข้ามการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นฐานเดิม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หรือ New S-Curve เสริมสร้างความเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่ทันสมัย ปลอดภัย ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ ภายใต้แนวคิด “นิคมอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” มุ่งเน้นความเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจากการเผาเพื่อผลิตความร้อน และไม่อนุญาตให้มีปล่องระบายมลพิษทางอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการ Carrying Capacity ที่ไม่อนุญาตให้มีการระบายมลพิษทางอากาศเพิ่มเติมในพื้นที่มาบตาพุด รวมทั้งลดการปล่อยมลพิษทางการจราจรและขนส่ง” นายนรินทร์  กล่าว

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวเสริมว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงเจตจํานงต่อภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการลดก๊าซเรือนกระจกของภาคอุตสาหกรรม ให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 

กนอ. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีภารกิจหลักด้านการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม และจัดให้มีบริการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่จำเป็นต่อการประกอบอุตสาหกรรม รวมทั้งระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม จึงกำหนดนโยบายเพื่อมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในการลดก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม/ท่าเรืออุตสาหกรรม ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ กนอ.ทำสัญญาจ้างก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม Smart Park กับ บริษัท เทิดไท แอนด์ โค จำกัด เริ่มต้นงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2564 โดยกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินกาได้ภายในปี 2567 

ทั้งนี้ กนอ.ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย ส่งเสริมการใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม Smart Park ซึ่งปูนชนิดนี้มีวิธีการผลิตเช่นเดียวกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดา แต่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และได้รับการรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (มอก. 2594-2556) การก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม Smart Park จำเป็นต้องใช้คอนกรีตผสมเสร็จประมาณ 120,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นปริมาณปูนซีเมนต์ประมาณ 40,000 ตัน บริษัท เทิดไท แอนด์ โค จำกัด ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการ ได้ตอบรับนโยบายของ กนอ. ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์  ไฮดรอลิก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดาทั้งหมด ทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะก่อสร้างได้ถึงประมาณ 2,000,000 กิโลกรัม หรือเท่ากับปลูกต้นไม้ประมาณ 200,000 ต้น เพื่อให้เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของนิคมอุตสาหกรรม Smart Park สัมฤทธิ์ผล กนอ. จะส่งเสริมการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการพลังงานภายในนิคมอุตสาหกรรม Smart Park ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดทดแทนการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฮโดรเจน และพลังงานชีวภาพ เป็นต้น รวมถึงส่งเสริมระบบการขนส่งภายในโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดและปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะดำเนินการได้ถึงร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับนิคมอุตสาหกรรมที่พัฒนาบนพื้นฐานเดิม

“กนอ. จะปลูกต้นไม้ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม Smart Park เพื่อเป็นแนวกันชนเชิงนิเวศ และทำหน้าที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ โดยคาดว่าจะลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้มากกว่า 500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Nichaphan W.
การตลาดและประชาสัมพันธ์