สศอ. เผย ผลประชุมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
สศอ. เผย ผลประชุมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

สศอ. เผย ผลประชุมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

Date Post
26.05.2022
Post Views

สศอ. เผย ผลประชุมและกิจกรรมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สอดคล้องแนวคิด OPEN. CONNECT. BALANCE.

นายทองชัย ชวลิตพิเชษฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ตามที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี 2565 ในห้วงการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 2 หรือ SOM2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ณ กรุงเทพมหานคร กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ดำเนินภารกิจร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและกิจกรรมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล (OPEN. CONNECT. BALANCE.)” มุ่งสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างประเทศไทยและกลุ่มสมาชิคเอเปคเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล การยกระดับทักษะทรัพยากรมนุษย์ และเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้ผลสรุปสำคัญ ดังนี้

1) ความร่วมมือด้านการแบ่งปันข้อมูลเศรษฐกิจผ่านฐานข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data โดย สศอ. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนา Online Webinar “Pathway towards Economic Data Governance in APEC” เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และการระดมความคิดเห็น รวมทั้งข้อเสนอแนะในการจัดทำกรอบความร่วมมือและมาตรฐานด้านการจัดการข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือด้านการแบ่งปัน และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ต้องดำเนินการด้วยระบบรักษาความปลอดภัย  เพื่อสร้างเครือข่ายด้านข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค ทั้งนี้ จำเป็นต้องยกระดับทักษะแรงงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านเครือข่ายโครงการความร่วมมือเสริมสร้างสมรรถนะในรูปแบบกิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การแลกเปลี่ยนบุคลากรและช่างเทคนิค รวมถึงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและการบริหารจัดการ โดยมุ่งหวังให้ภูมิภาคเอเปคมีแนวทางร่วมกันในการกำหนดกรอบนโยบาย วิธีการ ตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ และการรายงานสภาวะเศรษฐกิจให้เป็นไปในรูปแบบและทิศทางเดียวกัน 

โมเดลธุรกิจ MACHINE SUBSCRIPTIONS อาจมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 60 เท่า | Factory News EP.8

2) ความร่วมมือด้านการยกระดับทักษะภาคอุตสาหกรรม โดย สศอ. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเครือข่ายด้านการเสริมสร้างสมรรถนะทรัพยากรมนุษย์ (Capacity Building Network: CBN) ภายใต้คณะทำงานด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (APEC Human Resources Development Working Group: HRDWG) ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2565 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนนโยบายในการสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและความร่วมมือผ่านการดำเนินโครงการของสมาชิกเอเปค โดยมุ่งยกระดับทักษะบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมภายใต้แนวคิด Shaping Smart Citizen with Digitalization and Eco friendly Awareness เพื่อรับมือกับสถานการณ์ โควิด-19 รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ได้เชิญผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) องค์การเพื่อความร่วมมือ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ศูนย์ระหว่างประเทศด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมของ UNESCO รวมถึงผู้บริหารสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนทัศนะและประสบการณ์ต่อสถานการณ์ และทักษะความต้องการของแรงงานภาคอุตสาหกรรมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

3) ความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ โดย สศอ. และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มการหารือสาขายานยนต์ภายใต้การประชุมเอเปค ครั้งที่ 35  (APEC Automotive Dialogue) ในวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2565 ณ โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ โดยในการประชุมวันแรกประกอบด้วย การนำเสนอเป้าหมายหลักของไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค  “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy การนำเสนอสภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ของสมาชิกเอเปค ได้แก่ ข้อมูลการผลิต- การจำหน่ายของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ล่าสุดของภาครัฐ เป็นต้น รวมถึง การจัดเสวนาในเรื่อง “บทบาทของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน” โดยเชิญผู้เข้าร่วมเสวนาจากภาครัฐและเอกชนของออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และไทย (โดยผู้แทนจากสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย  และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย) มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศน์ (ECO System) ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่ความยั่งยืน ได้แก่ ระบบรับรองมาตรฐาน การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและทักษะฝีมือแรงงานเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า และการบริหารจัดการรถยนต์และแบตเตอรี่ใช้แล้วที่หมดอายุ เป็นต้น

สำหรับการจัดงานในวันที่สองนั้น สศอ. ได้จัดให้มีการเยี่ยมชมโรงงาน (Site Visit) ผลิตแบตเตอรี่ของบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในระดับ Cell แห่งแรกในประเทศไทยและอาเซียน และการเที่ยวชมสถานที่ (Sightseeing) วัดอรุณราชวรารามและวิถีชีวิตความเป็นอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในการเดินทางนำคณะผู้แทนสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค ไปชมโรงงานแบตเตอรี่ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา และการล่องแม่น้ำเจ้าพระยานั้น จะใช้รถโดยสารไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้าซึ่งผลิตโดยบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสัญชาติไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

“ในโอกาสนี้ สศอ. ขอขอบคุณสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค สำนักเลขาธิการเอเปค หน่วยงานของไทยและองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้การประชุมและกิจกรรมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมประสบความสำเร็จและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และยังเป็นการร่วมสร้างความเชื่อมั่นของไทยต่อสมาชิกเอเปคในการส่งเสริมและฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแนวทาง OPEN. CONNECT. BALANCE. อีกด้วย โดยผลสรุปที่ได้จากการจัดประชุมและกิจกรรมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะนำเสนอกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อไปสู่การปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป”  นายทองชัย กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Nichaphan W.
การตลาดและประชาสัมพันธ์