สสว. ร่วมกับ ส.อ.ท. จัดงาน Digital Transfer Matching Day สำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล และงาน Medical Showcase & Networking ให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยเชิญผู้ซื้อจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนใจเข้าร่วมในการซื้อขายภายในงาน
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “ตามที่กรมบัญชีกลาง ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) ซึ่งให้แต้มต่อกับ SMEs สำหรับผู้ประกอบการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้มาตรการสนับสนุนให้ SMEs เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) จะต้องมีคุณสมบัติเป็น SMEs ตามนิยามที่ สสว. กำหนด คือ ถ้าเป็นผู้ประกอบการในภาคการผลิตต้องมีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี ถ้าอยู่ในภาคการค้า/บริการ ต้องมีรายได้ไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อปี โดยจะต้องขึ้นทะเบียนในเว็บไซต์ www.thaismegp.com และได้รับหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเสนองานเรียบร้อยแล้ว
ในปีนี้ สสว.ได้จัดทำโครงการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ใน 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการบินและชิ้นส่วนอากาศยาน ความร่วมมือกับ ส.อ.ท. ในการยกระดับ 2 อุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมการแพทย์และดิจิทัลในครั้งนี้ก็ได้สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs กว่า 1,750 ราย ได้ทราบถึงกฎกระทรวงดังกล่าว และทราบถึงแนวทางในการเป็นคู่ค้ากับภาครัฐได้มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่การพัฒนาเตรียมความพร้อมเชิงลึกเพื่อให้มีความพร้อมในการยื่นเสนองานภาครัฐได้ ทั้งนี้ การสร้างโอกาสในการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับผู้สนใจในครั้งนี้ ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสได้แนะนำสินค้าและบริการต่างๆ ให้กับผู้ซื้อที่เป็นหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน รวมไปถึงโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าต่อในอนาคต”
นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการตลาด เป็นการสร้างเครือข่าย ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายของอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุปกรณ์การแพทย์ นับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจาก สสว. ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยมานานไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลกระทบจากต้นทุนด้านพลังงาน และค่าแรงงานที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น การสร้างโอกาสทางการค้า การหาตลาดเพิ่ม จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะตลาดภาครัฐที่มีงบประมาณการจัดซื้อค่อนข้างแน่นอนในแต่ละปี หาก SMEs ได้แต้มต่อ 10% เพิ่มเติมตามกฎกระทรวงฯ รวมถึงผู้ประกอบการที่ได้การรับรอง Made in Thailand ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น
ZEISS CONTURA โซลูชันเพื่อการตรวจสอบคุณภาพสำหรับยานยนต์ EV
ปัจจุบันการทำงานและการสื่อสารเข้าสู่รูปแบบดิจิทัลกันเกือบทั้งสิ้น ดังนั้นผู้ประกอบการ SMEs ไทยในอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องก็มีโอกาสในการขยายตลาดเพิ่มขึ้น หน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะภาครัฐก็เริ่มปรับระบบสู่ดิจิทัลกันมากขึ้น ซอฟต์แวร์การบริหารงานในสำนักงาน หรือระบบการประชุมปัจจุบันก็เป็นรูปแบบออนไลน์เกือบ 100% ซึ่งผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตสินค้าและบริการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทุกรูปแบบ สำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ก็เช่นกัน เราก็คาดหวังว่าหน่วยงานหรือโรงพยาบาลต่างๆ จะได้เห็นศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่มีการวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกให้ทางโรงพยาบาลได้พิจารณานำไปใช้ให้บริการ
การจัดกิจกรรม Digital Transfer Matching Day สำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล และงาน Medical Showcase & Networking ให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ในครั้งนี้ ได้คัดเลือกผู้ประกอบการนำสินค้าและบริการเข้าร่วมจัดแสดงกว่า 80 บริษัท ซึ่งมีสินค้าและบริการทางด้านดิจิทัลต่างๆ มานำเสนอในงาน อาทิ AI, Software ระบบ Training , ROBOT, Enterprise Resource Planning (ERP) แพลตฟอร์มการสื่อสารในสำนักงาน อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องประชุมระบบดิจิทัล สำหรับอุปกรณ์การแพทย์ มีสินค้าในกลุ่มครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์เครื่องมือ ชุดน้ำยาและชุดวินิจฉัยโรค ซอฟแวร์ระบบบริหารจัดการโรงพยาบาล การแจ้งเตือน ติดตามผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ และครุภัณฑ์-เวชภัณฑ์ทันต กรรม โดยภายในงานมีผู้ซื้อจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนใจกว่า 40 รายเข้าร่วมในการซื้อขาย ซึ่งคาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายกว่า 50 ล้านบาท