3 ยักษ์ใหญ่ในโลกเทคโนโลยีอย่าง Siemens, IBM และ Red Hat จับมือพัฒนา Hybrid Cloud เพื่อสร้างโซลูชันแบบเปิดที่มีความยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้นสำหรับเหล่าผู้ผลิตและการจัดการโรงงานด้วยการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อสร้างคุณค่าในรูปแบบ Real-time ซึ่งศูนย์การผลิตเพียงแห่งเดียวสามารถสร้างข้อมูลได้มากกว่า 2,200 Terabytes ใน 1 เดือน
การร่วมมือในครั้งนี้ Siemens Digital Industries Software จะใช้แนวทาง Open Hybrid จาก IBM และใช้งาน Red Hat OpenShift เพื่อขยายความสามารถของ MindSphere ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม IIoT เป็นโซลูชันด้านการบริการจาก Siemens ซึ่งลูกค้าที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้อยู่จะสามารถปลดล็อคความรวดเร็วและความคล่องตัวในโรงงานและกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ผ่าน Cloud ที่ต่อเนื่องไร้การสะดุด ตลอดจนการอัพเดทข้อมูลต่าง ๆ และการเชื่อมต่อระดับองค์กรก็จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
ความรวดเร็วและความสามารถในการปรับเปลี่ยนนั้นกลายเป็นความคาดหวังที่ผู้ผลิตมีต่อวงจรการผลิตที่สั้นลงในขณะที่คุณภาพผลิตภัณฑ์กลับต้องสูงขึ้น ซึ่ง MindSphere นั้นใช้เป็นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของกระบวนการต่าง ๆ ด้วย IIoT
ข้อมูลที่เกิดขึ้นในงานอุตสาหกรรมนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นกับภาค IT แต่จะมาจากกระบวนการผลิต ซัพพลายเชน หรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดการเชื่อมต่อ ทำให้ผู้ผลิตยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลของัวเองด้วยการส่งข้อมูลผ่าน Cloud ขององค์กรเองหรือไม่ก็ตัดสินใจที่จะล้มเลิกความคิดเหล่านั้น ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้ของ 3 ยักษ์ใหญ่จะเป็นการนำเอาจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นการทำงานอัตโนมัติ ความรวดเร็ว และความสามารถในการควบคุมในพื้นที่การผลิตเพื่อประมวลผลอย่างรวดเร็วพร้อมกับการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลไปยังองค์กร
MindSphere นั้นสามารถเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเซนเซอร์ได้ Real-time จากผลิตภัณฑ์ ตัวโรงงาน ระบบและเครื่องจักร จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ศักยภาพของอุปกรณ์ สินทรัพย์ในการผลิตและกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดควบคู่ไปกับ Value Chain ทำให้เกิด Digital Twin ขึ้นได้ และการมาถึงของ Red Hat OpenShift ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน MindSphere ใน Cloud ส่วนตัวได้หรือสามารถต่อยอดเป็นการใช้งานแบบ Hybrid หรือ Multi Cloud Model ได้สำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง ผู้ผลิตจึงสามารถควบคุมข้อมูลที่เกิดขึ้นจากกายภาพของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์โดยเป็นไปตามกฎและเงื่อนไขด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ทำให้ผลิตนั้นสามารถจดจ่ออยู่กับนวัตกรรมและผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ด้านธุรกิจอย่างเต็มศักยภาพ
Hybrid Cloud นั้นสามารถใช้งานได้ในหลากหลายกิจกรรมโดยเฉพาะโครงสร้างแบบเปิดไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต พลังงาน เมืองอัจฉริยะ การสื่อสารและบริการด้านการเงิน
ที่มา:
Newsroom.ibm.com