สสว. เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME เดือนพฤศจิกายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 พร้อมเผย 5 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรง
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SME Sentiment Index: SMESI) ประจำเดือนพฤศจิกายน 2564 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนตุลาคม 2564 ที่ระดับ 44.9 มาอยู่ที่ระดับ 50.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินระดับค่าฐาน (50) เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2564 (เมษายน 2564) การเพิ่มขึ้นมาจากเกือบทุกองค์ประกอบของดัชนี และปรับตัวดีขึ้นในทุกสาขาธุรกิจ โดยเฉพาะภาคบริการ เป็นผลจากการผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดของภาครัฐในเรื่องข้อจำกัดการเดินทาง และผ่อนปรนอนุญาตการดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ส่งเสริมธุรกิจรายย่อย
ยืดอายุการใช้งานให้มอเตอร์ในสายการผลิตของคุณด้วย Soft Starter | SIEMENS [Super Source]
ส่วนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว
ภาคการบริการ ที่มีการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่ สาขาบริการการท่องเที่ยว การขนส่งมวลชน (ไม่ประจำทาง) บริการเสริมความงาม/สปา/นวดเพื่อสุขภาพ ร้านอาหาร บริการสันทนาการ/วัฒรรม/กีฬา และโรงแรม/ที่พัก
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 58.1 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 55.0 จากแนวโน้มการขยายตัวของยอดขายสินค้าและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศและในประเทศเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลต่อการระบาดระลอกใหม่อย่างมาก รวมไปถึงความกังวลต่อการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุน โดยเฉพาะค่าวัตถุดิบและสินค้า ค่าน้ำมันและการขนส่ง
- ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือน กันยายน เพิ่มขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือน ส.ค. 64 ยังต่ำ
- สสว.เผยดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือน ส.ค. ลดลง
- ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือน มิ.ย.ฟื้นตัวต่อเนื่อง
ส่วน 5 ปัจจัย ที่ส่งผลดี ได้แก่ ด้านการได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน/ภาครัฐ ด้านเทคโนโลยี/ดิจิทัล/นวัตกรรม ด้านมาตรฐานการผลิต/ความปลอดภัย/สุขอนามัย ด้านข้อมูลสนับสนุนจากภาครัฐ และด้านผู้บริโภคและกำลังซื้อ
ปัจจัยที่ส่งผลลบ ได้แก่ ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้านหนี้สินกิจการ ด้านต้นทุน ด้านคู่แข่งขัน และด้านผู้บริโภคและกำลังซื้อ