“โฆษก กกพ.” เผย “กกพ.” ผุดแพคเกจเยียวยาผู้ใช้ไฟฟ้าลดค่าไฟลงอีก 3% พร้อมให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าขั้นต่ำกับผู้ใช้ไฟรายใหญ่ มีผลทันที เริ่มรอบบิล เม.ย.- มิ.ย. 2563 รวม 3 เดือน มีความพร้อมดูแลเสถียรภาพค่าไฟต่อเนื่อง
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะ โฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสุทธิที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วลงอีก 3% ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท โดยจะเร่งดำเนินการให้มีผลในการเรียกเก็บค่าบริการ ตั้งแต่ เม.ย. – มิ.ย. 2563 รวมเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินบริหารค่าไฟฟ้า ประมาณ 5,610 ล้านบาท เพื่อบริหารจัดการมาตรการดังกล่าว
“การลดค่าไฟฟ้าลงอีก 3% เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลดค่าไฟฟ้า บรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน และลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ
โควิด-19” นายคมกฤช กล่าว
นายคมกฤช กล่าวว่า ในส่วนมาตรการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ จากการประกาศใช้พระราชกำหนด เพื่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กกพ. ยังได้มีมติให้ผ่อนผันยกเว้นการเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (Minimum Charge) เป็นการชั่วคราวให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 3 ประเภทที่ 4 ประเภทที่ 5 ประเภทที่ 6 และประเภทที่ 7 ให้มีผลตั้งแต่ เม.ย. – มิ.ย. 2563 รวม 3 เดือน ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทดังกล่าวที่ปัจจุบันต้องเสียค่าความต้องการพลังไฟฟ้า (Demand Charge) ซึ่งคิดจากค่าไฟฟ้าในอัตราขั้นต่ำ จะเสียความต้องการพลังไฟฟ้า (Demand Charge) ตามความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดที่ใช้จริง
นายคมกฤช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน กกพ. ยังคงติดตามประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในส่วนที่มีผลกระทบกับค่าไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นความต้องการการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ต้องพิจารณาปัจจัยทั้งในด้านของอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าตามภาวะเศรษฐกิจโลก ค่าซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสำนักงาน กกพ. ยังคงมีเงินบริหารค่าไฟฟ้าเพียงพอที่จะดูแลค่าไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพตลอดปี 2563