KUKA-EvRecycle

หุ่นยนต์ Kuka กับการรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างยั่งยืน

24.09.2024

การเคลื่อนย้ายด้วยพลังงานไฟฟ้า (E-mobility) กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่สิ่งที่ตามมา คือ คำถามสำคัญเกี่ยวกับการจัดการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่หมดอายุการใช้งาน การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ Kuka ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้ โดยสามารถช่วยทำให้กระบวนการรีไซเคิลมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืนที่กำลังเป็นที่ต้องการ

Key
Takeaways
  • การเติบโตของ E-mobility ทำให้เกิดความจำเป็นในการจัดการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่หมดอายุการใช้งาน
  • การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมความยั่งยืน
  • หุ่นยนต์ Kuka มีบทบาทสำคัญในการทำให้กระบวนการรีไซเคิลมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
  • ระบบอัตโนมัติ (Automation) ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีอันตราย และเพิ่มความแม่นยำในการถอดประกอบชิ้นส่วนแบตเตอรี่
  • การใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการขุดแร่ธาตุใหม่ เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และนิกเกิล
  • ผลกระทบทางเศรษฐกิจ: การรีไซเคิลแบตเตอรี่ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าแร่ธาตุและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
  • กฎหมายและนโยบาย เช่น European Green Deal และ Responsible Battery Act สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลอัตโนมัติในแบตเตอรี่ EV
  • อนาคตของเทคโนโลยีรีไซเคิลอัตโนมัติ: คาดว่าจะใช้ AI ในการวิเคราะห์และจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และขยายการใช้หุ่นยนต์ในการรีไซเคิลในวงกว้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV

หนึ่งในปัญหาหลักที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า คือ ความซับซ้อนในการถอดประกอบและการจัดการวัสดุอันตราย ระบบอัตโนมัติและการใช้หุ่นยนต์จึงกลายเป็นทางออกที่ดี หุ่นยนต์ Kuka ถูกนำมาใช้ในโครงการ DeMoBat ของสถาบัน Fraunhofer IPA เพื่อรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ Automation ในการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย เพิ่มความแม่นยำในการถอดชิ้นส่วนที่สามารถนำไปใช้ใหม่ได้ และช่วยลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการรีไซเคิล

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจจากการรีไซเคิลแบตเตอรี่

การรีไซเคิลแบตเตอรี่ด้วยการใช้ระบบ Automation ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการขุดแร่ธาตุใหม่ เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และนิกเกิล กระบวนการรีไซเคิลยังช่วยลดการใช้พลังงานในภาคการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ การรีไซเคิลแบตเตอรี่ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ โดยช่วยลดต้นทุนการนำเข้าแร่ธาตุหายากและสร้างโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสะอาด การรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและลดการพึ่งพาวัตถุดิบดิบใหม่จากธรรมชาติ

เทคโนโลยีอัตโนมัติช่วยให้การรีไซเคิลปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การใช้หุ่นยนต์ในการถอดประกอบแบตเตอรี่ทำให้การทำงานในโรงงานรีไซเคิลมีความปลอดภัยมากขึ้น หุ่นยนต์สามารถวิเคราะห์ชนิดของแบตเตอรี่และเลือกกระบวนการถอดประกอบที่เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ ทำให้การรีไซเคิลมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับแรงงานมนุษย์

Fraunhofer IPA รายงานว่าการใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการนี้สามารถลดเวลาในการถอดแบตเตอรี่ได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับวิธีการดั้งเดิม นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังช่วยลดการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้กระบวนการปลอดภัยมากขึ้น

การสนับสนุนจากภาครัฐและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV

การพัฒนาการรีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสอดคล้องกับนโยบายหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปที่มีกฎระเบียบ European Green Deal ซึ่งมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 55% ภายในปี 2030 นโยบายนี้ส่งเสริมให้การรีไซเคิลแบตเตอรี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกอุตสาหกรรม การใช้ระบบอัตโนมัติอย่างหุ่นยนต์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตอบโจทย์กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่

ในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมาย “Responsible Battery Act” ที่กำหนดให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าต้องมีการจัดการแบตเตอรี่เมื่อหมดอายุการใช้งาน การใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลที่ทันสมัยและอัตโนมัติจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ผลิตปฏิบัติตามกฎหมายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อนาคตของการรีไซเคิลด้วยระบบอัตโนมัติ

ในอนาคต การรีไซเคิลด้วยระบบอัตโนมัติจะไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การจัดการแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แต่จะขยายไปสู่การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในวงกว้าง การใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการรีไซเคิลสามารถลดต้นทุนในระยะยาวและเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงวัสดุกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น

อนาคตของเทคโนโลยีนี้ยังคาดหวังว่าจะสามารถรวมระบบ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์แบตเตอรี่และขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้การนำระบบอัตโนมัติมาปรับใช้ในโรงงานรีไซเคิลจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการลดของเสียและเพิ่มการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างยั่งยืน

การใช้หุ่นยนต์ Kuka ในการรีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นก้าวสำคัญสู่การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน ระบบอัตโนมัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการรีไซเคิล และยังสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก การผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการรีไซเคิลจะเป็นแนวทางสำคัญในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนในอนาคต

อ้างอิง : https://www.all-about-industries.com/kuka-robots-make-e-mobility-more-sustainable-a-7945e8f37ce463714e88e40ea3b58edc/

Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ