ภายหลังจากการประกาศนโยบายกำแพงภาษีสุดโหดของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบอย่างทั่วหน้า นโยบายภาษีนี้เริ่มต้นที่การนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศและกำลังลุกลามไปอุตสาหกรรมยานยนต์
ผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทั่วทั้งโลกอยู่ในภาวะตึงเครียด การมีระบบผลิตที่ดีหรือห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแรงและมี Lean ที่ดีไม่อาจปกป้องผู้ผลิตจากปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จากข้อมูลของ Deloitte บริษัทกว่า 53% ในอเมริกายังต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์ หมายความว่าภาษีนี้นำไปสู่การค้นหาซัพพลายเออร์ในประเทศ ในขณะที่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลกนั้นมีความชัดเจนและมีศักยภาพในการลดความยุ่งยากรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ภาษีที่เกิดขึ้นสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อศักยภาพเหล่านี้
สำหรับประเทศหรือผู้ส่งออกสินค้าไปยังอเมริกาต้องเผชิญกับปัญหาขาดทุนจากภาษีหรือการเลิกสัญญาซื้อขาย ทำให้เศรษฐกิจโลกต้องหาทางออกอื่นภายหลังตลาดขนาดใหญ่อย่างอเมริกาก่อให้เกิดการชะงักงันขึ้น อนาคตของตลาดอุตสาหกรรมโลกเกิดความไม่แน่นอนจากการขาดหายไปของตลาดอเมริกา ในขณะที่เหล่านานาประเทศที่ได้รับผลกระทบเริ่มวางมาตรการตอบโต้กลับสำหรับมาตรการภาษีสุดโหดนี้เช่นกัน หากนโยบายนี้ยังเดินหน้าต่อไปอาจเป็นไปได้ว่าสหรัฐอเมริกาอาจต้องกลายเป็นประเทศที่ไม่ต่างอะไรกับการมีเศรษฐกิจระบบปิด
ที่มา:
- Industryweek.com