Store Master - Kardex
5 robotics industry trends 2025

5 เทรนด์อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ปี 2025 ดันมูลค่าตลาดโลกพุ่งสูงสุด

Date Post
04.02.2025
Post Views

มูลค่าตลาดโลกของการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยแนวโน้มในอนาคตชี้ว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของตลาด และโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเติบโตต่อไป สหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) ได้ชี้ให้เห็น 5 เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปี 2025

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการผลิตอุตสาหกรรมระดับโลก มาดูกันว่า 5 เทรนด์สำคัญในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ที่ IFR ได้เน้นย้ำมีอะไรบ้าง

1. ปัญญาประดิษฐ์(AI) การประมวลผลเชิงวิเคราะห์ เชิงกายภาพ และแบบกำเนิดใหม่

การบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับหุ่นยนต์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้หลากหลายด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

  • AI เชิงวิเคราะห์ – หุ่นยนต์ที่มี AI เชิงวิเคราะห์สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลจากเซ็นเซอร์ของพวกมัน เพื่อนำไปปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในงานผลิตที่มีความหลากหลาย หรือในพื้นที่สาธารณะ เช่น หุ่นยนต์ที่ติดตั้งระบบมองเห็นสามารถวิเคราะห์งานที่ผ่านมาหาแนวโน้ม เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความเร็วในการปฏิบัติงาน
  • AI เชิงกายภาพ – ผู้ผลิตกำลังลงทุนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เฉพาะทางเพื่อจำลองสภาพแวดล้อมจริง หุ่นยนต์ที่มี AI เชิงกายภาพสามารถฝึกในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ทำให้สามารถดำเนินการได้บนพื้นฐานของประสบการณ์ แทนที่จะเป็นคำสั่งที่ตั้งโปรแกรมล่วงหน้า
  • AI แบบกำเนิดใหม่ – เทคโนโลยีนี้มุ่งสร้างนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการ เช่นเดียวกับที่ ChatGPT ได้พลิกโฉมการสื่อสาร AI การพัฒนา AI แบบกำเนิดใหม่จะช่วยผลักดันความก้าวหน้าทั้งในหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและหุ่นยนต์บริการ ทำให้ระบบหุ่นยนต์ฉลาดและปรับตัวได้ดีขึ้น

2. หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์แบบงานเฉพาะทาง

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์ที่ออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก วิสัยทัศน์ของการพัฒนาหุ่นยนต์ประเภทนี้คือการสร้างหุ่นยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ตั้งแต่การโหลดเครื่องล้างจานไปจนถึงงานบนสายการผลิต

ปัจจุบัน ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และคลังสินค้ากำลังนำหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ไปใช้ในงานเฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มค่าและการขยายการใช้งานหุ่นยนต์ประเภทนี้ในภาคอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับโซลูชันที่มีอยู่ แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่บางการใช้งาน เช่น การขนส่งและคลังสินค้า อาจได้รับประโยชน์โดยธรรมชาติจากรูปแบบของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดการเติบโตของตลาด

3. ความยั่งยืนและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

หุ่นยนต์มีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนระดับโลกและการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยความแม่นยำสูง หุ่นยนต์สามารถลดของเสียจากการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ทำให้อัตราผลผลิตต่อการใช้ทรัพยากรดีขึ้น

ในด้านการผลิตพลังงานสะอาด เช่น แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์รีไซเคิล หุ่นยนต์เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขยายการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งรักษาคุณภาพและความยั่งยืน

นอกจากนี้ เทคโนโลยีหุ่นยนต์ยังพัฒนาให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใช้ส่วนประกอบน้ำหนักเบาเพื่อลดการใช้พลังงาน หรือฟีเจอร์ประหยัดพลังงาน เช่น โหมดพักเครื่อง รวมถึงเทคโนโลยีตัวจับวัตถุที่ได้แรงบันดาลใจจากชีววิทยา ช่วยให้จับวัตถุได้แน่นหนาด้วยการใช้พลังงานน้อยที่สุด

4. ตลาดใหม่และกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่

ในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป ยังมีศักยภาพที่ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่สำหรับการนำระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติมาใช้งาน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) อย่างไรก็ตาม การใช้งานยังคงเป็นไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากต้นทุนเริ่มต้นที่สูงและค่าใช้จ่ายรวมในการเป็นเจ้าของ

  • Robot-as-a-Service (RaaS) – โมเดลนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงหุ่นยนต์ขั้นสูงได้โดยไม่ต้องลงทุนสูงในครั้งเดียว ผู้ให้บริการ RaaS มักจะนำเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละอุตสาหกรรมและการใช้งาน
  • หุ่นยนต์ราคาประหยัด – สำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการความแม่นยำสูงมาก หุ่นยนต์ราคาประหยัดเป็นทางเลือกที่ “พอเพียง” สำหรับบริษัทที่อาจมองว่าหุ่นยนต์สมรรถนะสูงเกินความจำเป็นหรือต้นทุนสูงเกินไป

5. การแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

IFR ระบุว่า ภาคการผลิตทั่วโลกยังคงเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานในหลายประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และเยอรมนี แม้ผลกระทบจะต่างกันในแต่ละประเทศ แต่ผลสะสมที่เกิดกับห่วงโซ่อุปทานกลับเป็นประเด็นที่น่ากังวลในทุกที่

การใช้หุ่นยนต์ช่วยลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิต โดยการทำงานที่ “สกปรก น่าเบื่อ อันตราย หรือประณีต” ทำให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่ซับซ้อนและมีมูลค่าสูงกว่า ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์สามารถตรวจสอบคุณภาพด้วยสายตา พ่นสีในสภาพแวดล้อมที่อันตราย หรือยกของหนัก เทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่พัฒนาขึ้น เช่น หุ่นยนต์ร่วมงานหรือหุ่นยนต์เคลื่อนที่ที่ใช้งานง่าย ช่วยเติมเต็มช่องว่างของแรงงานได้อย่างเหมาะสม

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเหล่านี้ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์กำลังเข้าสู่ยุคที่เต็มไปด้วยศักยภาพใหม่ ไม่เพียงแต่จะสร้างโอกาสในตลาดธุรกิจ แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินงานของโลกอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและน่าตื่นเต้น

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
Store Master - Kardex