วันที่ 18 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุสายสลิงรถเครนขาดในบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 72 ช่วงใกล้ทางโค้งออกถนนกาญจนา กรุงเทพฯ
- Airbus ออกแถลงการณ์เหตุเครื่องบิน Japan Airlines ไฟไหม้
- Honda เรียกคืนรถ 250,000 คันในสหรัฐจากข้อผิดพลาดในการผลิต
- Hyundai และ Kia ชดเชยลูกค้า 200 ล้านดอลลาร์จากคดีขโมยรถยนต์
รายงานเบื้องต้นได้ระบุว่าเหตุเกิดจากการที่สายสลิงของรถเครนที่ทำการยกกระเช้าบรรจุคนงาน 2 คนเกิดการขาด ทำให้กระเช้าร่วงหล่นลงมาด้านล่างจากความสูงประมาณ 15 เมตร ทำให้มีคนงานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 1 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย
ข้อมูลเพิ่มเติมยังได้ระบุอีกว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่รถเครนกำลังดึงกระเช้าพาคนงานซึ่งเป็นช่างแมคคาทรอนิกส์ขึ้นไปทำการซ่อมบำรุงเครื่องจักร โดยในขณะที่กำลังปฏิบัติงานอยู่นั้นคนงานที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไม่ได้มีการส่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของรถเครนหรือกระเช้าออกมาแต่อย่างใด
โดยรายงานจาก ThaiPBS และ Ejan ได้ระบุว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่กระเช้าที่ใช้ในเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่กระเช้าที่มีไว้สำหรับบรรทุกคน แต่เป็นกระเช้าที่ใช้สำหรับการขนของ อีกทั้งยังคาดว่าคนขับรถเครนคันดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นพนักงานขับรถประจำ ทำให้ไม่มีความชำนาญในการขับรถเครน
ล่าสุดทางกรมทางหลวงจึงได้มีการสั่งไซต์งานที่เกิดเหตุบนถนนพระราม 2 ให้ทำการหยุดก่อสร้าง 3 วัน หลังเกิดเหตุสลิงรถเครนขาด เพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุของการทำงานในทุกส่วนโดยละเอียดต่อไป
อุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของการก่อสร้างบนถนนเส้นพระราม 2 ทำให้สังคมต่างก็ตั้งคำถามว่าแล้วเมื่อไหร่กันที่หน่วยงานหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะมีมาตรการตรวจสอบที่รัดกุมและสามารถรับรองความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างได้เพื่อไม่ให้เหตุการณ์อันน่าสลดใจเช่นนี้ต้องเกิดขึ้นซ้ำอีก จะต้องมีผู้เสียชีวิตและความเสียหายอีกมากเท่าไหร่ก่อนที่อุบัติเหตุเหล่านี้จะหมดไปได้เสียที