การก้าวเข้ามาของเทคโนโลยี Generative AI อาจช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของออสเตรเลียได้มากถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2030
โดยรายงานจากความร่วมมือระหว่าง Microsoft และ Tech Council of Australia ได้ระบุว่า Generative AI สามารถสร้างมูลค่ากว่า 2 – 5 พันล้านดอลลาร์ให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตในออสเตรเลียได้ภายในปี 2030
- มองการมาถึงของยุคแห่ง AI ผ่านสายตามหาเศรษฐี ‘Bill Gates’
- ถึงมือลูกค้าเร็วกว่าเดิม! Amazon เตรียมนำ AI ยกระดับการขนส่ง
- BMW Group นำระบบ AI เข้ามาเสริมงานตรวจสอบพื้นผิวรถยนต์
นอกจากนั้น Generative AI ยังมีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าได้อีกมากกว่า 45,000 – 115,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้แก่ภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศออสเตรเลีย ผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือการปรับปรุงและพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้นและการช่วยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ขึ้นมา
Generative AI ยกระดับการทำงานภาคอุตสาหกรรม
ที่ผ่านมานั้นภาคการผลิตของออสเตรเลียเป็น 1 ใน 4 ของภาคส่วนสำคัญในเศรษฐกิจที่สามารถสร้างประโยชน์จากการเข้ามาของ Generative AI ได้ โดยแม้ว่าปกติแล้วระบบ AI จะมีบทบาทในด้านอุตสาหกรรมอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผู้ผลิตสามารถทำการคาดการณ์ช่วงเวลาที่ต้องบำรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ได้ (Predictive Maintainance) หรือช่วยในการตรวจจับข้อบกพร่องหรือความผิดปกติของผลิตภัณฑ์ได้
แต่ Generative AI นั้นสามารถยกระดับการทำงานเหล่านี้ให้เหนือขึ้นไปอีกขั้นได้ในส่วนของอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีการนำ AI มาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ตามคุณสมบัติที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ หรือการช่วยยกระดับทักษะของผู้ฝึกงานและช่างเทคนิค ซึ่งข้อมูลจากรายงานยังระบุว่า Generative AI จะสามารถทำให้การทำงานกว่า 30% ในภาคการผลิตสามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของงานกว่า 19% ขึ้นได้อีกด้วย
Generative AI ยังสามารถปรับปรุงการเรียนรู้ภาคปฏิบัติสำหรับช่างเทคนิคให้ทำการ Upskill & Reskill ของตนเองได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะช่วยเข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะในภาคอุตสาหกรรมรอบโลกได้
ภาคอุตสาหกรรมเสี่ยงล้าหลัง หากไม่นำ AI เข้ามาใช้งาน
อย่างไรก็ตามรายงานก็ยังระบุถึงความท้าทายของการพยายามนำ Generative AI มาใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ที่แม้ว่าในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทอุตสาหกรรมกว่า 72% จะพยายามนำระบบดิจิทัลเข้ามาเสริมการทำงานแล้ว แต่ปัจจุบันกลับมีบริษัทเพียง 20% เท่านั้นที่มีการใช้ AI ได้จริง ซึ่งหากไม่มีการผลักดันบริษัทเหล่านี้แล้วล่ะก็ ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมก็อาจจะเกิดความล้าหลังขึ้นได้เมื่อเทียบกับภาคธุรกิจส่วนอื่น ๆ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใดก็จะต้องพยายามนำเอาความสามารถของระบบ AI เข้ามาเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตามมาตรฐานที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน สำหรับภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยเองก็ต้องเตรียมพร้อมรอรับการเปลี่ยนแปลงที่ระบบ AI จะนำเข้ามาในอีกไม่นานหลังจากนี้กันไว้ให้ดีครับ