งานวิจัยเผย หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติช่วยสร้างมากกว่าแย่งงาน

ความคิดเห็นของแรงงานส่วนมากเมื่อพูดถึงการเข้ามาของยุคแห่งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัตินั้น อาจจะเป็นภาพของหุ่นยนต์ที่เข้ามาแย่งงานไปจากมนุษย์ กลายเป็นคู่แข่งที่ทำให้แรงงานส่วนใหญ่ต้องถูกเลิกจ้างไป

แต่งานวิจัยจาก RWI – Leibniz Institute for Economic Research กลับบ่งชี้ว่าที่จริงแล้วการเข้ามาของระบบอัตโนมัติภายในประเทศที่มีศักยภาพการใช้งานเทคโนโลยีสูงกลับเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการจ้างงานขึ้นได้แทน

• 3 เทรนด์ที่ต้องจับตามองของระบบอัตโนมัติปี 2023
• ‘evoBOT’ หุ่นยนต์ AMR 2 ขาสุดล้ำ ขนส่งสินค้าได้ดีกว่าเดิม
• มองการมาถึงของยุคแห่ง AI ผ่านสายตามหาเศรษฐี Bill Gates

จากการศึกษาของ RWI ที่อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานจัดหางาน ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (The Federal Employment Agency and regional economic and labor) ในช่วงปี 2012-2019 ในหลาย ๆ ภูมิภาครอบโลกพบว่าอัตราการจ้างงานภายในประเทศที่มีการเติบโตของระบบอัตโนมัตินั้นมีจำนวนที่สูงขึ้น

และถึงแม้ว่าในบางกรณีนั้นการเข้ามาของระบบอัตโนมัติอาจจะก่อให้เกิดการเลิกจ้างขึ้นได้ก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วอัตราการจ้างงานโดยรวมก็ยังเพิ่มมากขึ้น 1-2% ขึ้นกับประเภทของอุตสาหกรรม สาเหตุก็มาจากการที่สินค้าและบริการที่ผลิตโดยระบบอัตโนมัติเหล่านี้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการมากขึ้นตามมาและก่อให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรม

RWI ได้อธิบายผลจากการศึกษาโดยรวมเอาไว้ว่าการสูญเสียงานที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกทดแทนไปได้ด้วยความก้าวหน้าของเทคนิคการผลิตแทน ทำให้โรงงานเกิด Productivity มากขึ้น และนำมาสู่การกำเนิดนวัตกรรมและรูปแบบการทำงานใหม่ ๆ ที่จะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นตามมาในภาพรวมได้นั่นเอง

รู้อย่างนี้แล้วถ้าหากใครยังคงมีความเชื่อว่าในอนาคตมนุษย์จะถูก AI และระบบอัตโนมัติแย่งหน้าที่ไปละก็ คงจะสามารถพูดได้ว่าหายห่วงเลยครับ เพราะสุดท้ายแล้วระบบอัตโนมัติเหล่านี้ต่างหากที่จะช่วยสร้างความต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงให้เพิ่มมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมพัฒนาฝีมือของคุณให้ตามเทคโนโลยียุคใหม่กันเอาไว้ด้วยนะครับ