หลังจากมาตรการควบคุมการส่งออกชิปของญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นแล้วในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางการจีนก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ญี่ปุ่นอย่าทำการขัดขวางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างทั้งสองประเทศ
โดยมาตรการควบคุมการส่งออกของญี่ปุ่นในครั้งนี้ได้จำกัดการเข้าถึงเครื่องมือสำหรับการพิมพ์กัดกรด (Etching) บนแผงวงจรขนาดเล็กของชิปขั้นสูงสำหรับการใช้ในสมาร์ตโฟน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการใช้งานในรูปแบบอื่น ๆ
- 5 อันดับประเทศที่มีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์สูงที่สุดในโลก !
- TSMC เลื่อนแผนการผลิตชิปในสหรัฐจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
- ญี่ปุ่นจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปตามรอยสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์
จีนไม่พอใจมาตรการระงับการส่งออกของญี่ปุ่น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ AP News นั้นได้ระบุว่า เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมากล่าวว่า “เราไม่พอใจอย่างยิ่งและเสียใจกับการกระทำดังกล่าว” และยังได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่น “ป้องกันไม่ให้มาตรการที่เกี่ยวข้องเข้ามาแทรกแซงความร่วมมือในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างทั้งสองประเทศ”
สำหรับอุตสาหกรรมชิปและเซมิคอนดักเตอร์ของจีนในปัจจุบันนั้นก็ได้มีการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานผลิตชิปของจีนขึ้นมาเอง แต่ทางจีนนั้นก็ยังคงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกและญี่ปุ่นเพื่อทำการผลิตชิปที่มีความทันสมัยอยู่ดี
มาตรการที่เข้มงวดของญี่ปุ่นในครั้งนี้จึงถือเป็นผลกระทบที่ทำให้ความพยายามในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิปและเซมิคอนดักเตอร์ของจีนต้องล่าช้าลง โดยนอกจากญี่ปุ่นแล้วก็ยังมีประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เข้าร่วมกับคำร้องสหรัฐฯในการจำกัดการส่งออกเครื่องมือผลิตชิปไปยังประเทศจีนเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์ความตึงเครียดในอุตสาหกรรมการผลิตชิประหว่างสหรัฐฯและจีนที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่สมัยของนายกรัฐมนตรี โดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2019 นั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนลง ซึ่งมาตรการที่พึ่งมีการบังคับใช้ไปของญี่ปุ่นนั้นจะส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตภายในประเทศอาจเกิดความเสี่ยงกำไรลดลงหรือไม่นั้น ก็เป็นสถานการณ์ที่ยังต้องจับตาดูกันต่อไปครับ