บริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์จำนวนมากในจีนต่างก็เริ่มสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในบริษัทภายในประเทศมาเลเซียเพื่อทำการประกอบชิประดับ High-end
- จีนออกมาตรการลดหย่อน VAT ให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง
- ผู้ก่อตั้ง TSMC เชื่อ ศึกสหรัฐฯ-จีนจะทำให้อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกชะลอตัว
โดยรายงานจาก Reuters ได้ระบุว่าการตัดสินใจของบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ของจีนในครั้งนี้นั้นเป็นความพยายามที่จะกระจายและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่ออุตสาหกรรมชิปของประเทศจีน
โดยบริษัทส่วนมากจากจีนนั้นต่างก็ต้องการให้บริษัทบรรจุภัณฑ์ชิปของมาเลเซียเป็นผู้ทำการประกอบชิป GPUs หรือหน่วยประมวลผลกราฟิกให้โดยไม่มีการผลิตชิปเวเฟอร์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่ละเมิดข้อกำหนดที่มีอยู่ของสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งยังได้ให้ความเห็นว่าผลกระทบของการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมชิปจากสหรัฐฯ นั้นได้ส่งผลให้บริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ขนาดเล็กจำนวนมากในประเทศจีนต้องแข่งขันกันในการหาบริการบรรจุภัณฑ์ชิปขั้นสูงภายในประเทศของตนเอง
มาเลเซียซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ มีความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศจีน มีต้นทุนในการผลิตต่ำและมีแรงงานที่มีประสบการณ์ จึงถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมในการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจเพิ่มเติมเนื่องจากบริษัทชิปภายในจีนนั้นต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงด้านการประกอบชิปออกสู่นอกประเทศไปด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศมาเลเซียยังคิดเป็น 13% ของตลาดโลกในด้านการบรรจุภัณฑ์ การประกอบ และการทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทางมาเลเซียยังหวังที่จะเพิ่มขนาดกลุ่มตลาดเหล่านี้ให้กลายเป็น 15% ภายในปี 2030 อีกด้วย มาเลเซียจึงมีการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทด้านชิปทั่วโลกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามมาเลเซียนั้นก็ไม่ใช่แค่ประเทศเดียวเท่านั้นที่กำลังแข่งขันกันดึงดูดบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาภายในประเทศของตนเอง โดยทางเวียดนามและอินเดียเองนั้นต่างก็กำลังเร่งขยายขอบเขตของธุรกิจบริการด้านการผลิตชิปของตนเองอยู่เช่นกัน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญที่กำลังบ่งบอกให้หลาย ๆ ประเทศต้องเร่งทำการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปและเซมิคอนดักเตอร์ของตนเองให้แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หากต้องการสร้างการเติบโตทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจให้แก่ประเทศของตนเองได้ในอนาคต