เลือกมอเตอร์ที่ใช่สำหรับหุ่นยนต์ต้องรู้อะไรบ้าง?

Date Post
14.09.2021
Post Views

ต้องยอมรับว่าในอุตสาหกรรมการผลิตยุคปัจจุบันนั้นหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทอย่างมากในกระบวนการต่าง ๆ ไม่ว่าการประกอบชิ้นส่วน การหยิบจับ ตลอดจนงานคลังสินค้า และสิ่งที่ขับเคลื่อนหุ่นยนต์ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ คือ มอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ตามข้อต่อต่าง ๆ นั่นเอง

หากใครคิดว่าเพราะ COVID-19 ทำให้การใช้งานเพิ่มขึ้นก็ต้องบอกตามตรงเช่นกันว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น ในช่วงเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยจุดเด่นในการทำงานที่สม่ำเสมอ ความแม่นยำที่มนุษย์ไม่อาจทำได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ความสามารถในการควบคุมคุณภาพและต้นทุนที่ชัดเจน

คุณสมบัติเหล่านี้ของหุ่นยนต์นั้นเกิดขึ้นได้เพราะ Ecosystem ที่ดีไม่ว่าจะระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์ที่ใช้ โครงสร้างพื้นฐานของระบบหรือแพลตฟอร์มก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่ถ้าวัดกันที่ตัวของหุ่นยนต์เองปัจจัยสำคัญจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนของสมองกลที่ใช้ในการควบคุมสื่อสารต่าง ๆ และในส่วนของมอเตอร์ที่เป็นอุปกรณ์หลักในการขยับเคลื่อนไหว

คุณสมบัติที่ต้องพิจารณาของมอเตอร์สำหรับหุ่นยนต์อุตสาหกรรม

การเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์หรือแขนกลนั้นจำเป็นต้องมีมอเตอร์ในการขับเคลื่อน ซึ่งมอเตอร์แต่ละชนิดก็มีความจำเป็นในการใช้งานในแต่ละกิจกรรมของหุ่นยนต์แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับภาระงานหรือกิจกรรมที่ต้องรองรับ 

การเลือกใช้มอเตอร์ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การเลือกใช้งานมอเตอร์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายกับหุ่นยนต์หรือการใช้มอเตอร์ที่เกินความจำเป็นก็ก่อให้เกิดความสูญเปล่าได้ เช่น การใช้มอเตอร์ที่รับโหลดได้น้อยกว่าการใช้งานจริงหุ่นยนต์ก็อาจเสียหายได้ หรือการใช้มอเตอร์ที่รับโหลดได้เกินกว่าความต้องการมากก็จะเป็นการลงทุนที่เสียเปล่าทั้งการเป็นเจ้าของ พลังงาน และการซ่อมบำรุง เป็นต้น

เพื่อให้เกิดการเลือกใช้งานมอเตอร์สำหรับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสม การพิจารณามอเตอร์ในงานที่มีความละเอียดอ่อนและความท้าทายเหล่านี้จึงต้องพิจารณาปัจจัยและความต้องการที่เกี่ยวข้องให้ถี่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อการซ่อมบำรุง การประกอบหุ่นยนต์ หรือแม้แต่การอัพเกรดก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนประเด็นอื่นเลย คือ ต้องการให้หุ่นยนต์ทำอะไรได้และทำไมคุณถึงต้องการคุณสมบัติเหล่านั้น การรู้และเข้าใจในสองประเด็นนี้จะป้องกันไม่ให้การลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดสร้างปัญหาให้กับธุรกิจในภายหลังครับ

เมื่อเข้าใจในความต้องการใช้งานแล้วจากนั้นจึงค่อยมาลงรายละเอียดในด้านคุณสมบัติของมอเตอร์ที่เหมาะสมกันครับ โดยคุณสมบัติที่ต้องพิจารณามีดังนี้ครับ

  • โหลดในการใช้งานจริง – เพราะหุ่นยนต์ต้องหยิบจับหรือมีอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่ม การคำนวณแรงบิดที่ต้องการและภาระที่มอเตอร์ต้องแบกรับจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
  • ความเร็ว – มอเตอร์สำหรับหุ่นยนต์ต้องเคลื่อนไหวให้เหมาะสมกับภาระหน้าที่ในการใช้งานจริง การเคลื่อนไหวที่ช้ากว่าความต้องการส่งผลต่อ Productivity ของหุ่นยนต์และภาพรวมของการผลิต ร้ายที่สุดอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดได้
  • ความแม่นยำ – การเคลื่อนที่และการหยุดได้ในตำแหน่งที่ต้องการโดยไม่ขาดไม่เกินและไม่เกิดการสั่นไหวจะทำให้หุ่นยนต์สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ
  • ความทนทาน – ความทนทานในที่นี้คือความสามารถในการใช้งานในกิจกรรมที่ต้องการซ้ำ ๆ ได้โดยไม่เกิดความล้มเหลวหรือไร้ประสิทธิภาพ
  • การใช้พลังงาน – การพิจารณารูปแบบพลังงานไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้ากระแสตรง หรือ ไฟฟ้ากระแสสลับ รวมถึงปริมาณที่ใช่จะทำให้สามารถประเมินต้นทุนและอุปกรณ์ที่ต้องการได้
  • ต้นทุน – เพื่อความสำเร็จและสภาพคล่องการพิจารณาราคาของมอเตอร์และคุณสมบัติที่ได้จะเป็นคำตอบของการเติบโตสำหรับธุรกิจ การเลือกใช้งานมอเตอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการนั้นไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป และในขณะเดียวกันการเลือกใช้มอเตอร์ราคาถูกเอาไว้ก่อนก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ – การเลือกใช้มอเตอร์นั้นต้องแน่ใจว่าขนาด สัดส่วน รวมถึงการออกแบบต่าง ๆ ต้องสอดรับกับหุ่นยนต์ซึ่งเป็นโครงพื้นฐาน

เมื่อเข้าใจคุณสมบัติความต้องการเหล่านี้แล้วก็จะสามารถเลือกชนิดของมอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ เช่น การเลือกใช้งานสเต็ปปิ้งมอเตอร์เหมาะสำหรับการเคลื่อนที่ที่แม่นยำ มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงบิดสูง

สเต็ปปิ้งมอเตอร์ที่ทำงานคล้ายกับเซอร์โวมอเตอร์แต่แบ่งขั้นการหมุนออกเป็นหลายระดับ ถ้าหากมองเป็นการใช้งานเซอร์โวมอเตอร์จะพบเห็นได้บ่อยในการใช้งานสำหรับแขนกล แต่จะมีราคาที่สูงมาก ในปัจจุบันสเต็ปปิ้งมอเตอร์สามารถลดต้นทุนในการผลิตและยังได้ประสิทธิภาพของการทำงานที่เทียบเท่าเซอร์โวมอเตอร์ได้แล้ว ในขณะที่หุ่นยนต์ติดล้อมักจะถูกเลือกใช้งานด้วยเป็นมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน ชนิดปรับความเร็วได้ ด้วยแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง หรือมีแบตเตอรี่เก็บประจุไฟ เพื่อสร้างความสะดวกในการใช้งานรถขับเคลื่อน พร้อมมีแรงบิดและสมรรถนะสูง เป็นต้น

เลือกใช้งานมอเตอร์สำหรับหุ่นยนต์ เลือก Oriental Motor

ด้วยเงื่อนไขปัจจัยความต้องการที่หลากหลายของหุ่นยนต์ การคำนวณตัวแปรด้วยบุคคลากรที่ขาดความเชี่ยวชาญหรือไม่มีทรัพยากรที่เพียงพออาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า การปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกมอเตอร์สำหรับหุ่นยนต์จึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด

Oriental Motor ผู้ผลิตมอเตอร์ขนาดเล็กประสบการณ์มากกว่า 100 ปีจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีความเชี่ยวชาญในด้านของมอเตอร์ขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งเทคโนโลยีและความสำเร็จเหล่านี้ได้รับการต่อยอดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในด้านมอเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมยุคระบบอัตโนมัติที่หลากหลาย ซึ่งมอเตอร์สำหรับหุ่นยนต์ก็ถือเป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญที่โดดเด่น

นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กแล้ว  Oriental Motor ยังมีความเชี่ยวชาญในด้านงานบริการครบวงจรสำหรับมอเตอร์ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการซ่อมบำรุง การอัพเกรด การหามอเตอร์เพื่อทดแทนต่าง ๆ ซึ่งพร้อมให้บริการด้วยความรวดเร็วเนื่องจากมีคลังสินค้าพร้อมส่งในประเทศภายใน 2 วัน โดยจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำใด ๆ ให้กังวล

หากคุณกำลังมองหามอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับหุ่นยนต์ แขนกล หุ่นยนต์เคลื่อนที่ได้รถ AGV หรือมอเตอร์สำหรับระบบอัตโนมัติต่าง ๆ Oriental Motor ในฐานะผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานญี่ปุ่นที่ไว้วางใจได้ สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กได้ที่

Oriental Motor

โทรศัพท์: 02-251-1871
E-mail: [email protected]
LINE Official Account: @orientalmotor-th

เนื้อหาที่น่าสนใจ:
Motion & Motor | มอเตอร์แบบไหนที่คุณวางใจ?
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire