ภายหลังจากการระบาดในพื้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนตกอยู่ในสภาวะยากลำบากทั้งทางสภาพแวดล้อมสังคมและธุรกิจโดยเฉพาะภาคการผลิต โดยในปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์และไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น รวมถึงโรงงานบางส่วนกลับมาดำเนินการแล้วในขระที่ตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติต่อจากประเทศจีน
ธุรกิจในประเทศจีนนั้นเริ่มฟื้นตัวกลับมาทำงานได้อีกครั้งสวนทางกับภาคการผลิตโลกที่ทะยอยกันปิดตัวหรือเกิดการชะงักงัน ข้อมูลรายงานว่าธุรกิจที่รอดจากการระบาดของไวรัสนั้นเริ่มกลับมาทำงานกันอีกครั้ง คาดการณ์ว่าอัตราการทำงานที่กลับมาอยู่ที่ 70% หรือมากกว่านั้น
จากการที่ COVID-19 นั้นได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้เกิดภาวะการณ์เศรษฐกิจถดถอยในตลาดโลกทำให้พันธมิตรการค้าของจีนนั้นต่างปิดตัวลงในเวลาที่จีนกำลังฟื้นตัวขึ้นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจังหวะที่ไม่ดีเลยทีเดียว
แม้ว่าจะมีวิศวกรในประเทศเป็นจำนวนมากในปักกิ่ง อัตราการเติบโตจะถูกจำกัดไว้ด้วยปัญหาที่ลุกลามไปทั่วโลก โดยนักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ค่า GDP ของจีนจะลดลงอย่างมาก เช่น Nomura คาดการณ์ว่า GDP ลดลงเหลือ 1.3% จาก 4.8% The Economist Intelligence Unit คาดการณ์ว่า GDP ลดลงเหลือ 2.1% จากเดิม 5.4% ในขณะที่ปีที่ผ่านมานั้น อัตราเติบโต GDP ของจีนอยู่ที่ 6.1% ซึ่งนับว่าเชื่องช้าที่สุดหากมองย้อนไปถึงปี 1990
ที่มา:
Cnbc.com