DENSO ผู้ผลิตเครื่องจักรและเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติในอเมริกาเหนือร่วมมือกับ Dristhi Technologies เพิ่มศักยภาพสำหรับการผลิตในโรงงานด้วยการใช้ AI
การใช้ AI ในการสนับสนุน Digital Transformation ของ DENSO ในครั้งนี้นั้นทำให้สามารถติดตามข้อมูลและการวิเคราะห์ต่าง ๆ แบบ Real-time สำหรับกิจกรรมที่ต้องทำด้วยมือของแรงงงานในทุกกิจกรรมได้ ชุดข้อมูลเหล่านี้ทำให้การบริหารจัดการการผลิตสามารถระบุและจัดการกับคอขวดได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความสามารถในแต่ละกระบวนการ รวมถึงเพิ่มศักยภาพและลำดับความสำคัญของหน้าที่ต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย
แม้ว่าระบบอัตโนมัติในงานอุตสาหกรรมสำหรับระบบเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าอย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังถูกคาดการณ์ไว้ว่ามีการใช้งานจริงไม่ถึง 25% ในกิจกรรมการผลิตในปี 2025 ทำให้มนุษย์ยังเป็นสัดส่วนที่สำคัญในการทำงานกิจกรรมการผลิต การใช้ AI และเทคโนโลยีที่ช่วยในการจดจำการทำงานทำให้สามารถทำการวิเคราะห์คุณภาพของการทำงานของแรงงานในเชิงปริมาณได้แบบลงลึก
ทำให้สามารถเพิ่มผลลัพธ์ของการผลิต เพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และรักษาคุณภาพความสม่ำเสมอในการทำงานร่วมไปถึงสนับสนุนแรงงานในภาระหน้าที่รายวัน
จากการวิจัยร่วมกันของ Dristhi และ A.T. Kearny พบว่ามนุษย์นั้นทำหน้าที่ในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงงานเป็นสัดส่วน 72% ข้อมูลนี้ได้มาจากการสอบถามผู้ผลิตชั้นนำกว่า 100 ราย ทำให้เห็นว่าแม้ในปัจจุบันจะมีการให้ความสำคัญที่มากขึ้นกับหุ่นยนต์และ IIoT แต่ผู้คนยังคงเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการผลิตอยู่เหมือนเดิม
แน่นอนว่าการเปลี่ยนผ่านต้องมีอุปสรรคและการต่อต้านจากแรงงาน ในขั้นตอนแรกที่ DENSO ทำ คือ การอธิบายเทคโนโลยีและหน้าที่ของมันเพื่อให้แรงงานเข้าใจอย่างัชดแจ้ง ทำให้เห็นถถึงผลประโยชน์ที่เกิดกับพวกเขาไม่ใช่แค่สำหรับการบริหารจัดการ เทคโนโลยีต้องทำให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้น ทำงานได้อย่างฉลาดมากขึ้นมากกว่าที่จะมาทดแทน
ลำดับสุดท้ายเทคโนโลยีพวกนี้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต้องสมเหตุสมผลกับกำไรในแต่ละปี หรือกล่าวได้ง่าย ๆ ว่า การที่มีมนุษย์กับเทคโนโลยีร่วมกันผลักดันผลประกอบการควรมากกว่าระบบการผลิตอัตโนมัตินั่นเอง
ที่มา:
Machinedesign.com