หลังแผ่นดินไหวถึงเวลาเช็กความปลอดภัยในโรงงานของคุณแล้วหรือยัง?
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ในประเทศไทย อาจผ่านพ้นไปในเวลาไม่กี่วินาที แต่ผลกระทบที่แท้จริงต่อโรงงานอุตสาหกรรมอาจยังคงอยู่ ทั้งในเชิงโครงสร้าง การดำเนินงาน และความปลอดภัยของบุคลากรในพื้นที่ แม้ความเสียหายจะไม่แสดงออกชัดเจนในทันที แต่แรงสั่นสะเทือนสามารถทำให้โครงสร้างบางส่วนเกิดรอยร้าว ระบบท่อหรือสายไฟคลายตัว เครื่องจักรเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจสอบโดยเร็ว อาจนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงขึ้นในภายหลัง
ความเปราะบางซ่อนอยู่ตรงไหน?
โรงงานหลายแห่งในประเทศไทย โดยเฉพาะอาคารเก่าหรืออาคารที่ไม่ได้ออกแบบให้รองรับแรงสั่นสะเทือน อาจมีจุดเปราะบางแฝงตัวอยู่ เช่น ระบบท่อแขวนที่ไม่มีตัวยึดที่แน่นหนา ถังเก็บของเหลวที่เริ่มเอียง ชั้นวางที่ไม่ได้ยึดติดกับผนัง หรือแม้แต่โครงสร้างรองรับเครื่องจักรที่คลายตัวเพียงเล็กน้อย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเสี่ยง แม้จะยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาในทันที แต่หากมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นซ้ำ หรือหากต้องใช้งานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ตรวจสอบ ก็อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ในระยะสั้นหรือระยะยาว
แนวทางการตรวจสอบความปลอดภัยจากข้อเสนอแนะระดับสากล
แนวทางการประเมินความปลอดภัยหลังแผ่นดินไหวในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับการใช้งานในระดับสากล เช่น จาก TÜV SÜD (ประเทศเยอรมนี) และ FEMA (หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของสหรัฐฯ) สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมในบริบทของไทย โดยเฉพาะในช่วงหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เพิ่งผ่านมา
TÜV SÜD แนะนำให้โรงงานเริ่มต้นด้วยการประเมินแบบ 2 ระดับ คือ การตรวจสอบเบื้องต้นด้วยสายตา (Walkdown Inspection) และหากพบจุดเสี่ยงสำคัญจึงต่อยอดไปสู่การวิเคราะห์เชิงโครงสร้างโดยใช้แบบจำลองทางวิศวกรรม ส่วน FEMA เน้นความสำคัญของ “การสำรวจจุดเสี่ยงโดยผู้ใช้งานพื้นที่” เพื่อระบุปัญหาเบื้องต้นได้เร็วที่สุด
ขั้นตอนการประเมินความปลอดภัยในโรงงาน
ระดับที่ 1 การตรวจสอบเบื้องต้น (Walkdown Inspection)
การเดินสำรวจพื้นที่โรงงานโดยผู้มีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างหรือระบบต่างๆ เป็นขั้นตอนแรกที่ควรดำเนินการภายใน 24–72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ เพื่อระบุว่ามี โครงสร้างที่มีรอยร้าว , ระบบท่อและสายไฟที่หลุดคลาย , อุปกรณ์ติดตั้งที่มีการเปลี่ยนตำแหน่ง , วัตถุหนักที่วางบนที่สูงโดยไม่ยึดตรึง หรือไม่
ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยจำแนกได้ว่าอาคารหรืออุปกรณ์ใดมีความเสี่ยง และควรได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่
ระดับที่ 2 การวิเคราะห์เชิงวิศวกรรม (Engineering Assessment)
ในกรณีที่พบจุดเสี่ยงที่มีผลต่อความมั่นคงของโรงงาน เช่น เสา คาน ฐานรับเครื่องจักร หรือโครงสร้างย่อยที่มีผลต่อความปลอดภัยโดยรวม อาจจำเป็นต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วยการจำลองแรงสั่นสะเทือนผ่านซอฟต์แวร์วิศวกรรมโครงสร้าง
ผลการวิเคราะห์จะช่วยให้สามารถวางแผนการเสริมความแข็งแรง (Retrofitting) หรือกำหนดขอบเขตพื้นที่ใช้งานที่ปลอดภัยได้อย่างแม่นยำ
✅ Checklist เบื้องต้นสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมหลังแผ่นดินไหว
ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการสำรวจด้วยตนเอง โดยควรให้เจ้าหน้าที่หรือวิศวกรที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบทันทีหลังเหตุการณ์ผ่านพ้น
ด้านโครงสร้าง
- ☐ ผนัง เสา หรือพื้นมีรอยร้าวใหม่หรือไม่?
- ☐ โครงเหล็กหรือหลังคามีการบิดงอ?
- ☐ อุปกรณ์ที่ยึดติดกับโครงสร้างหลุดหรือคลายตัว?
ด้านระบบท่อและสารเคมี
- ☐ ท่อส่งเคมีหรือไอน้ำหลุดจากจุดยึด?
- ☐ มีรอยรั่ว หรือเสียงผิดปกติจากวาล์วหรือปั๊ม?
- ☐ ถังเก็บของเหลวมีอาการเอียงหรือสั่น?
ด้านระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ควบคุม
- ☐ มีสายไฟเปลือย หรืออุปกรณ์ไหม้จากการกระแทก?
- ☐ ระบบตัดไฟอัตโนมัติทำงานตามปกติหรือไม่?
- ☐ ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลุดจากฐานหรือไม่?
ด้านอุปกรณ์จัดเก็บและเครื่องจักร
- ☐ ชั้นวางของหรือเครื่องจักรเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม?
- ☐ ของตกหล่นจากที่สูงระหว่างหรือหลังเกิดแรงสั่น?
- ☐ มีเสียงหรือแรงสั่นแปลก ๆ ระหว่างเปิดใช้งานเครื่องจักร?
จุดเริ่มต้นของความปลอดภัย คือการลงมือสำรวจ
การประเมินความปลอดภัยไม่ใช่เพียงขั้นตอนภายหลังเหตุการณ์ แต่มันคือกระบวนการที่ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกครั้งที่เกิดแรงสั่นสะเทือน มีอาคารเก่าเพิ่มเข้ามา หรือเมื่อมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในโรงงาน
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน การใช้ Checklist ข้างต้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับโรงงานของคุณในวันนี้ เพราะคุณอาจไม่สามารถควบคุมแรงสั่นของแผ่นดินไหวได้แต่คุณสามารถควบคุม “การตอบสนอง” ในการรับมือเหตุการหลังจากนั้นของโรงงานได้เสมอ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
- Seismic Safety Assessment for Industrial Facilities | TÜV SÜD
- Earthquake Safety Checklist (FEMA B-526)