เรื่องของความยั่งยืนที่กำลังกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญของโลกปัจจุบันนั้น สามารถดำเนินการได้หลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การบริหารจัดการให้เกิดการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า และจุดเริ่มต้นของความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพนี้ก็มาจากโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้าที่ส่งผลต่อปริมาณพลังงาน ความปลอดภัย ไปจนถึงความสะอาดของคลื่นสัญญาณไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรที่มีความอ่อนไหวโดยตรง
ข้อกำหนดด้านความยั่งยืนนั้นเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน เป็นผลจากผลกระทบทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมที่เสียหาย ปัญหามลภาวะ ไปจนถึงการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งนานาอารยประเทศและภาคเอกชนต่างเร่งปรับตัวเพื่อลดผลกระทบอันเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น จึงเกิดเป็นข้อกำหนด ข้อบังคับทางกฎหมาย สำหรับการบังคับใช้และการประเมินมาตรฐานเพื่อวัดการเติบโตของธุรกิจในเวลาเดียวกัน
โดยกิจกรรมที่สามารถดำเนินการได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด คือ นโยบายด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดไฟฟ้าด้วยวิธีต่าง ๆ อาทิ การปิดไฟในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน การเพิ่มแสงสว่างจากธรรมชาติ ไปจนถึงระบบระบายอากาศที่ใช้สถาปัตยกรรมเข้ามาช่วยเพื่อปรับอุณหภูมิโดยไม่ใช้ไฟฟ้า การวางแผนนโยบายด้านความยั่งยืนนั้นไม่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกธุรกิจเนื่องจากมีต้นทุนที่สูง ในขณะที่การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพลดความสูญเสียพลังงานไปจนถึงเพิ่มความปลอดภัยนั้นเป็นตัวเลือกที่สะดวกกว่าและสามารถใช้งานได้กับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการผลิตที่ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง
แค่ ‘ปลอดภัย’ ไม่พอ ระบบไฟฟ้ายุคใหม่ต้องใช้พลังงานให้ ‘คุ้มค่า’ ในเวลาเดียวกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ความปลอดภัยนั้นเป็นประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้า ซึ่งความปลอดภัยที่ว่านั้นนอกจากความสามารถในการรองรับโหลดและกระแสที่เหมาะสมแล้ว การป้องกันอัคคีภัยที่เกิดจากการลัดวงจรก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภายในที่พักอาศัยหรือในสถานที่ประกอบธุรกิจอย่างโรงงานอุตสาหกรรม
ความปลอดภัยนั้นโดยเนื้อแท้มีความสอดคล้องกับความยั่งยืนเป็นทุนเดิม ด้วยแนวคิดการอนุรักษ์ทรัพยากร ซึ่งในกรณีของความยั่งยืนนั้นจะมองไปยังผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่ในมุมของความปลอดภัยจะมองถึงทรัพยากรมนุษย์ หากพิจารณาในภาพผ่านโมเดลสำหรับการประเมินต่าง ๆ เช่น โมเดล ESG จะพบว่าอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้าในยุคใหม่จะสามารถสนับสนุนได้ทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) ในพื้นที่อย่างแรงงานในประเด็นของความปลอดภัย และในส่วนของการอนุรักษ์พลังงานเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม โดยพื้นฐาน คือ การลดการสูญเสียพลังงานเมื่อผ่านอุปกรณ์นั้น ๆ หรือจะเรียกว่าทำให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพ ไม่เกิดความสูญเปล่าขึ้นในระบบ
เพื่อให้สามารถตรวจสอบวัดผลประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปช่วยติดตามข้อมูลหรือพฤติกรรมการใช้งานที่เกิดขึ้นจริง (Monitoring) ซึ่งเป็นก้าวแรกก่อนที่จะต่อยอดไปสู่การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ในฐานะอุปกรณ์อัจฉริยะที่สื่อสารและตั้งค่าการทำงานได้อย่าง IoT และ IIoT ที่จะช่วยให้เกิดการบริหารจัดการด้านพลังงานและความปลอดภัยได้อย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนซ่อมบำรุงล่วงหน้า จนถึงการตั้งค่าอัตโนมัติสำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในอาคาร เช่น การตั้งเวลาเปิดปิดไฟฟ้าอัตโนมัติหรือการตรวจจับผู้คนในห้องพร้อมกับสภาพแวดล้อมเพื่อปรับอุณหภูมิและความสว่าง
การลงทุนอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้าสำหรับอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมองให้ไกลไปถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นโยบายที่จะต้องเกิดขึ้น ไปจนถึงปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างการลดต้นทุน อุปกรณ์เหล่านี้จึงต้องมาพร้อมกับมาตรฐานและ Ecosystem ที่สามารถรับประกันความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจได้ในอนาคต การเลือกใช้อุปกรณ์ราคาเข้าถึงง่ายแต่ไร้มาตรฐานและต่อยอดไม่ได้อาจนำไปสู่ความสูญเสีย เช่น การที่ฟิวส์หรืออุปกรณ์ด้านความปลอดภัยไม่อาจทำงานได้ถูกต้องเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดอันตราย ดังนั้น การเลือกใช้แบรนด์ที่มีความพร้อมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์จึงเป็นความอยู่รอดและความยั่งยืนของธุรกิจในเวลาเดียวกัน โดย ABB เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีอัตโนมัติสำหรับโรงงานที่พร้อมทั้งประสบการณ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสำหรับอนาคต รับประกันความยั่งยืนได้อย่างแน่นอน
ABB เปลี่ยนอนาคตของโรงงานผ่านความยั่งยืนตั้งแต่รากฐาน
ABB ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าจากยุโรปอัดแน่นด้วยประสบการณ์กว่า 130 ปีที่พัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ จึงมีทั้งวิสัยทัศน์และประสบการณ์ที่กลั่นกรองออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องและมองไปไกลถึงความต้องการของผู้ใช้งานในอนาคตอย่างรอบด้าน
ผลิตภัณฑ์จาก ABB นั้นรองรับการใช้งานในภาคการผลิตหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตแบตเตอรี่ ซีเมนต์ พลังงาน โลหการ วิทยาศาสตร์ชีวิต ไปจนถึงคลื่นลูกใหม่อย่าง Data Center โดยผลิตภัณฑ์จะมาพร้อมกับ Ecosystem ในการใช้งานที่ครบ จบ ทุกคุณสมบัติสำหรับการทำธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านต้นทุน ความยั่งยืน การทำงานอัตโนมัติ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้าน ทั้งอุปกรณ์ แพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์
เบรกเกอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการปกป้องเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ จากปัญหาด้านระบบไฟฟ้าเป็นหนึ่งในกลุ่มอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานที่ ABB มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้หลากหลายตามความต้องการ ไม่ว่าจะงานอาคาร สำนักงาน คลังสินค้า โรงงาน ระบบอัตโนมัติ ไปจนถึงการใช้งานภายที่พักอาศัย มีทั้งรุ่นที่รองรับการใช้งานอย่างเรียบง่าย และรุ่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับการบริหารจัดการยุคใหม่ที่ช่วยในการควบคุมต้นทุนและจัดการทรัพยากรได้ อาทิเช่น
SACE Emax 2
เซอร์กิตเบรกเกอร์อัจฉริยะ All in One ที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจในการบริหารจัดการพลังงานสำหรับระบบที่ใช้ไฟฟ้าแรงดันต่ำ มาพร้อมกับ 3 มาตรฐานระดับสากล ได้แก่ IEC, UL และ CCC รับมือกับสถานการณ์ทางไฟฟ้าได้อย่างหลากหลาย ด้วยฟังก์ชันอันทันสมัย เช่น Load Shedding, ATS, Synchrocheck Logics และ Adaptive Protection พร้อมใช้งานด้วยการออกแบบให้เป็น Plug & Play รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Cloud ABB Ability Electrical Distribution Control System หรือทำการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ที่ใช้พลังงานต่ำก็ได้เช่นกัน คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้สามารถติดตามข้อมูลการทำงานและสถานการณ์ทางไฟฟ้าที่เกิดขึ้นได้อย่างใกล้ชิดในระดับ Real-time ความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นจึงถูกแสดงให้เห็นและดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตัวอุปกรณ์เองถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดช่วยลด Footprint และทองแดงที่ใช้ได้ถึง 25% เรียกได้ว่าส่งเสริมนโยบายด้านความยั่งยืนทั้งการใช้งานและการผลิตตัวอุปกรณ์เอง
SACE Tmax XT
MCCBs ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายบนแนวคิดที่ให้ความสำคัญเรื่องประสิทธิภาพเป็นอันดับ 1 มาพร้อมกับมาตรฐาน IEC และติดตั้งฉนวน 2 ชั้น มั่นใจได้ในความทนทานและความปลอดภัยในการใช้งาน เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น Power Supply, Servo Motor หรือ Stepping Motor ตัวอุปกรณ์ถูกออกแบบให้เป็น Trip Free เพื่อกันกระแสไฟฟ้าเกินและกระแสไฟฟ้าลัดวงจรได้ดียิ่งขึ้น และมีระบบควบคุมพลังงานแบบฝังตัวพร้อมใช้ที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20% ในด้านการติดตั้งสามารถลดเวลาลงได้ถึง 30% และการเชื่อมต่อไปยัง Cloud เพื่อใช้งานเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 10 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริม 50 รูปแบบเพื่ออัปเกรดการทำงานผ่าน ABB Marketplace จึงสามารถเลือกรูปแบบและการตั้งค่าได้หลากหลายตามความต้องการผ่านระบบนิเวศน์ของผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดเอาไว้เป็นอย่างดี
ABB ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิดและเทคโนโลยีที่ส่งต่อความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม การทำธุรกิจและสภาพแวดล้อมในการใช้งานจริง สิ่งเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมาจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจในเรื่องของพลังงาน ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ เน้นไปที่ความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้งาน ผู้ประกอบการทั่วโลกจึงต่างวางใจในผลิตภัณฑ์ระดับโลกจาก ABB ที่ส่งต่อคุณค่า ความคุ้มค่า และความยั่งยืนที่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากอุปกรณ์อย่างเบรกเกอร์ที่สามารถรายงานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตัวอุปกรณ์เองถูกออกแบบให้ลด Footprint ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ปัจจุบันผู้ใช้งานที่มองหาสินค้าจาก ABB นั้นสามารถติดต่อผ่านตัวแทนต่าง ๆ ได้ แต่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมหรือภาคธุรกิจที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่อ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรหรือเซิร์ฟเวอร์การเลือกใช้บริการจากตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงสำหรับระบบไฟฟ้าในระดับโครงสร้างพื้นฐานจะสามารถรับประกันความปลอดภัยและความคุ้มค่าที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบระบบ การให้คำปรึกษา ไปจนถึงการจัดจำหน่ายสินค้าและการบริการหลังการขายที่ต้องเข้าใจถึงความต้องการและเงื่อนไขของผู้ใช้งานอย่างรอบด้าน โดยหนึ่งในตัวแทนอย่างเป็นทางการของ ABB ที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางในใจวงกว้าง คือ บริษัท บางกอกแอบโซลูท อิเลคทริคแอนด์คอน จํากัด นั่นเอง
‘บางกอกแอบโซลูท’ ตัวจริงด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า
บริษัท บางกอกแอบโซลูท อิเลคทริคแอนด์คอน จํากัด เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้าสำหรับงานอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ABB และ บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสายไฟและสายเคเบิ้ลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับสูง ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสำเร็จของลูกค้า มีสินค้าพร้อมจำหน่ายตั้งแต่สายไฟฟ้า เบรกเกอร์ อุปกรณ์ควบคุม รีเลย์ ไปจนถึง EV Wall Box ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่กำลังมาแรงควบคู่ไปกับยานยนต์ไฟฟ้า มั่นใจได้ในผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการปรับตัวสู่ความยั่งยืน หรือต้องการอัปเกรดความปลอดภัยอุปกรณ์พื้นฐานของระบบไฟฟ้า บริษัท บางกอกแอบโซลูท อิเลคทริคแอนด์คอน จํากัด พร้อมให้บริการด้วยสินค้าที่มั่นใจได้ในคุณภาพ ความทนทาน และความปลอดภัยที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมั่นคงในทุกย่างก้าว ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถสนับสนุนทุกกระบวนการให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ต่อเนื่อง และพร้อมต่อยอดเอาชนะทุกความท้าทายที่มี
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
บริษัท บางกอกแอบโซลูท อิเลคทริคแอนด์คอน จํากัด
โทรศัพท์: 02-398-3389-92
Email: [email protected]
Website: www.bangkokab.com
Line: @bangkokabsolute
Facebook: Bangkokab