EU อนุมัติงบ 3.5 พันล้านดอลลาร์ฯ แก้ปัญหาผูกขาดแบตเตอรี่ EV จากเอเชีย

Date Post
29.01.2021
Post Views

สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติแผนการให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตยานยนต์ในการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าสำหรับ EV มูลค่ากว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดการนำเข้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีการเติบโตของการผลิต EV อย่างรวดเร็ว

ประเทศจีนนั้นถือครองสัดส่วนการผลิตแบตเตอรี่ Lithium-Ion Cell อยู่ถึง 80% ของโลก สภาพตลาดแบตเตอรี่จึงตกอยู่ในสภาวะผูกขาดทางการค้า ซึ่งปัจจุบันสหภาพยุโรปได้ผลักดันให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV กันในหมู่ประเทศสมาชิกจำนวนมาก และมีการตั้งเป้าที่จะยกเลิกการจำหน่ายหรือใช้งานยานยนต์สันดาป การผูกขาดที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นปัญหาสำคัญต่อการเติบโตและทิศทางที่ได้วางเอาไว้

ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำอย่าง TESLA, BMW และแบรนด์อื่น ๆ นั้นต่างมีการลงทุนด้าน EV จำนวนมหาศาลในจีนสืบเนื่องจากนโยบายทางการลงทุนของจีนที่เอื้อให้กับการทำธุรกิจ ตลอดจนความพร้อมของซัพพลายเชนในพื้นที่ตั้งแต่วัตถุดิบจนไปถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประเทศจีนนั้นเกิดกลายเป็นโรงงานของโลกในปัจจุบัน

นอกเหนือจาก Tesla และ BMW แล้วยังมีผู้ผลิตรายอื่นอีกกว่า 42 รายที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ อาทิ Fiat Chyrsler Automobiles, Arkema,Norealis, Solvay, Sinlught Systems และ Enel X เป็นต้น

โครงการนี้นั้นมีแผนที่จะดำเนินการไปจนถึงปี 2028 โดยคาดว่าจะสามารถผลิตได้พอเพียงต่อความต้องการภายในสหภาพไม่เกินปี 2025 โดยโครงการจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากประเทศฝรั่งเศส, เยอรมนี, ออสเตรีย, เบลเยียม, ฟินแลนด์, กรีซ, โปแลนด์, สโลวาเกีย, สเปน และสวีเดน และยังตั้งเป้าดึงดูดเม็ดเงินกว่า 9 ล้านยูโรจากการลงทุนของเอกชนอีกด้วย

ปัจจุบันกรุงเบอร์ลินมีงบประมาณอยู่ 1 พันล้านยูโรในการสนับสนุนพันธมิตรด้านแบตเตอรี่และวางผนจะสนับสนุนโครงการนี้ในวงเงิน 1.6 พันล้านยูโร

โครงการสนับสนุนแบตเตอรี่นี้เน้นไปที่นวัตกรรมซึ่งครอบคลุมทุกกระบวนการ ตั้งแต่การสกัดวัตถุดิบ ไปจนถึงการออกแบบและการผลิต ในท้ายที่สุดสำหรับการรีไซเคิลและการกำจัดทิ้งก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนเช่นกัน

ที่มา:
Reuters.com

บทความที่เกี่ยวข้อง:
กระทรวงอุตฯ ประกาศมอก. แบตเตอรี่ EV
Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire
Digitech2024