ส.อ.ท. หารือ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือและแลกเปลี่ยนนโยบายระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน การถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. พร้อมด้วยนายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ ประธานสถาบันเศรษฐกิจและการลงทุนไทย-จีน ร่วมประชุมหารือกับ ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และคณะติดตาม ในโอกาสให้เกียรติเยือน ส.อ.ท. โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส.อ.ท. เป็นตัวแทนของภาคเอกชนไทย ใน 45 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และเชื่อมต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับจีนตลอดมา ส่งผลให้การค้าระหว่างสองประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรจีนอีกหลายหน่วยงาน
Neuralink ชิปฝังสมองของ Elon Musk ได้รับการอนุมัติให้ทดลองแล้ว | FactoryNews ep.59/1
ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมีความเข้มแข็งและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีนได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในหลายๆ อุตสาหกรรม ซึ่งไทยมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ส่งผลให้ไทยเป็นพันธมิตรที่ดีในการสร้างความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Security) ส.อ.ท. จึงเชิญชวนให้จีนพิจารณาให้ไทยเป็นฐานหลักในการผลิตเพื่อขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน โดยตอกย้ำความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการผลิตของไทยในด้านต่างๆ อาทิ
อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Automobile)
ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Top 5 ชั้นนำของจีนได้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส.อ.ท. จึงเสนอให้ประเทศจีนใช้ประเทศไทยเป็นฮับ (Hub) ในการขยายตลาดในอาเซียนและทั่วโลก
อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food)
ไทยมีความพร้อมทั้งด้านวัตถุดิบที่มีคุณภาพและศักยภาพการผลิตที่ทั่วโลกให้การยอมรับ อีกทั้งยังดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายแนวคิดเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของรัฐบาลไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น
อุตสาหกรรมการแพทย์ (Healthcare)
อุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของทั่วโลก เนื่องจากสังคมกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next – Generation Industry)
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน เพื่อขับเคลื่อนด้านต่างๆ ดังนี้
ด้านการนำดิจิทัลมาปรับใช้ (Digital Transformation)
จีนมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่าย 5G และการให้บริการทางดิจิทัล (Digital Services) ซึ่งจะช่วยสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของไทยให้มีทักษะดิจิทัลมากขึ้น
ด้านการขยายเส้นทางขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับจีน
ส่งเสริมนโยบายข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Belt and Road Initiative (BRI) หรือ One Belt, One Road รวมทั้งเส้นทางใหม่ๆ เช่น การขนส่งด้วยรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
ด้านความยั่งยืน (Sustainability)
ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญในประเด็นด้านความยั่งยืน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งทาง ส.อ.ท. ให้ความสำคัญและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมช่วยกันแก้ปัญหาด้าน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้มีการจัดตั้ง “สถาบันเศรษฐกิจและการลงทุนไทย-จีน” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมระหว่างสองประเทศ และยินดีให้ความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจีนหลากหลายหน่วยงาน เช่น สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน หรือ China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) เป็นต้น
การประชุมหารือครั้งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยปรับตัวและยกระดับให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกอย่างยั่งยืนต่อไป