GPSC เปิดตัว Solar Orchestra ตั้งเป้าติดตั้งกว่า 100 MW ปี 65
GPSC เปิดตัว Solar Orchestra ตั้งเป้าติดตั้งกว่า 100 MW ปี 65

GPSC เปิดตัว Solar Orchestra ตั้งเป้าติดตั้งกว่า 100 MW ปี 65

Date Post
19.10.2021
Post Views

GPSC – CHPP – EXIM BANK – TGO และ NEO ลงนามขับเคลื่อนการลงทุน Solar Rooftop  ตั้งเป้าติดตั้งกว่า 100 เมกะวัตต์ สิ้นปี 2565  

GPSC เปิดตัว Solar Orchestra ตั้งเป้าติดตั้งกว่า 100 MW ปี 65

นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC เปิดเผยว่า เมื่อ 15 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย GPSC, บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (CHPP), ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK), องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO)  และบริษัท นีโอคลีน เอ็นเนอยี่ จำกัด (NEO ) เพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) 

Vacon อินเวอร์เตอร์พร้อม PLC ในตัว | ทนทาน และสนับสนุน Preventive Maintenance [Super Source]

และการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตภายใต้โครงการ Solar Orchestra ที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้ามาลงทุน Solar Rooftop แล้วขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย หรือ “โครงการ T-VER” และรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ที่เรียกว่า “คาร์บอนเครดิต”และสามารถนำคาร์บอนเครดิตไปแลกเปลี่ยนซื้อขายได้ โดยตั้งเป้าหมายการติดตั้ง Solar Rooftop กว่า 100 เมกะวัตต์ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2565

สำหรับความร่วมมือดังกล่าว แบ่งเป็น 5 ส่วน ได้แก่ GPSC ในฐานะแกนนำด้านธุรกิจไฟฟ้าของ กลุ่ม ปตท. จะให้ความร่วมมือในการพัฒนาผู้ประกอบการไทย โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน  CHPP  บริษัทในกลุ่มซึ่ง GPSC ถือหุ้น 100%  จะเป็นผู้รับเหมาหลัก (EPC Contractor) ในการพัฒนาติดตั้งโซลาร์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ  Solar Orchestra  ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล 

ขณะที่ EXIM BANK จะให้การบริการทางการเงินแก่ผู้ประกอบการที่สนใจติดตั้งระบบ Solar Rooftop เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก TGO จะสนับสนุนความร่วมมือเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระบวนการและหลักเกณฑ์การขอขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER และการขอรับรองคาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย เพื่อจะขับเคลื่อนให้ไทยก้าวสู่นโยบายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2608-2613 (ค.ศ. 2065 – 2070)  ตามที่รัฐบาลได้กำหนดแผนงานเพื่อให้ก้าวทันในเวทีโลก และ NEO จะช่วยดำเนินการเป็นผู้รับเหมารอง (Sub EPC Contractor) โครงการ Solar Orchestra ดังกล่าว

 “ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการมอบสิทธิประโยชน์แบบ All in one package ให้กับผู้ประกอบการไทยที่สนใจลดค่าไฟฟ้า โดยการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในกิจการ จากการร่วมดำเนินงานโดยบริษัทชั้นนำของประเทศ พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) การสนับสนุนทางการเงินด้วยเงื่อนไขพิเศษ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านคาร์บอนเครดิต” นางรสยากล่าว

ด้านนายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ กรรมการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (CHPP) กล่าวว่า ภายใต้แนวคิด Sustainable Energy Management for All การพัฒนาโครงการ Solar Orchestra เป็นการขับเคลื่อนพลังงานหมุนเวียน เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคการผลิตของไทย ที่มีแนวโน้มต้องการพลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตสินค้ามากขึ้นตามทิศทางของกระแสโลก ที่มุ่งใช้นโยบายพลังงานสะอาดเพื่อลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตเพื่อนำไปใช้ประโยชน์  เช่น การนำไปรายงานเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint Organization) ในรายงานประจำปี   ที่จะนำไปสู่การพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน 

ดังนั้น การคัดสรรเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนจึงมีความสำคัญในการพัฒนาโครงการ ซึ่ง CHPP มีประสบการณ์ที่จะสามารถออกแบบการติดตั้งระบบ Solar Rooftop, Solar Floating และ ระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management) ให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจพลังงานสะอาดให้เหมาะสมต่อการใช้ไฟฟ้าของผู้ประกอบการแต่ละราย 

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Nichaphan W.
การตลาดและประชาสัมพันธ์
Taiwan-Excellent