SIEMENS
Industry 4.0

Industry 4.0 เปลี่ยนแปลงอย่างไร ที่อุตสาหกรรมควรเตรียมรับมือ

Date Post
23.04.2025
Post Views

รายละเอียดของ Industry 1.0, 2.0, 3.0, 4.0

การปฏิวัติทางอุตสาหกรรมได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จนมาถึง Industry 4.0 ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม โดยแต่ละยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน สำหรับเจ้าของอุตสาหกรรม นิสิต นักศึกษา หรือผู้ที่กำลังสนใจในการเปลี่ยนแปลงนี้ นี่คือการอธิบายถึง Industry 1.0, Industry 2.0, Industry 3.0, และ Industry 4.0 ที่เราควรทำความเข้าใจเพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

Industry 1.0 – การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 (เครื่องจักรไอน้ำ)

Industry 1.0 เกิดขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก โดยการประดิษฐ์ เครื่องจักรไอน้ำ ซึ่งสามารถทดแทนแรงงานมนุษย์และสัตว์ได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการผลิตจากการผลิตแบบครัวเรือนและการใช้แรงงานมนุษย์ไปสู่การใช้เครื่องจักร

Industry 2.0 – การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 (ไฟฟ้าและการผลิตจำนวนมาก)

Industry 2.0 เริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยการนำไฟฟ้ามาใช้ในโรงงาน ช่วยให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาของ สายการผลิต (assembly line) ซึ่งสามารถผลิตสินค้าจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์

Industry 3.0 – การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 (การใช้คอมพิวเตอร์และการอัตโนมัติ)

Industry 3.0 เริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยการนำ คอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้ในการผลิต ทำให้โรงงานสามารถใช้ ระบบคอมพิวเตอร์ ในการควบคุมและจัดการกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้แรงงานมนุษย์และเพิ่มความแม่นยำในการผลิต

Industry 4.0 – การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (เทคโนโลยีดิจิทัล)

Industry 4.0 หรือที่เรียกว่า อุตสาหกรรม 4.0 เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคที่เทคโนโลยี ดิจิทัล เข้ามามีบทบาทสำคัญที่สุด โดยการใช้ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ระบบอัตโนมัติ และ การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น

ทำความรู้จักการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ Industry 4.0

การเข้าสู่ Industry 4.0 เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น IoT (Internet of Things), Big Data, Artificial Intelligence (AI), การพิมพ์ 3D, และ หุ่นยนต์อัตโนมัติ มารวมเข้าด้วยกันเพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการในโรงงาน

  1. IoT (Internet of Things) ในโรงงาน 4.0

การใช้งาน IoT ในโรงงานช่วยให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อและส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังระบบควบคุมกลาง ซึ่งสามารถใช้ในการตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจสอบสภาพเครื่องจักร, การตรวจสอบสต็อกวัสดุ, และการวิเคราะห์การผลิตเพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้

  1. Big Data และการวิเคราะห์ข้อมูล

การใช้ Big Data ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลจากกระบวนการผลิตและการดำเนินงานต่าง ๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์ความต้องการของตลาด, ปรับปรุงกระบวนการผลิต, และพัฒนาผลิตภัณฑ์

  1. Artificial Intelligence (AI)

AI สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เช่น การใช้ Machine Learning เพื่อทำนายการบำรุงรักษาเครื่องจักร, การใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะในการทำงานที่ซับซ้อน หรือการใช้ระบบอัตโนมัติในการควบคุมกระบวนการผลิต

  1. การพิมพ์ 3D

3D printing หรือการพิมพ์สามมิติช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนได้ในระยะเวลาสั้นและสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ทันที ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น การผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร, อุตสาหกรรมยานยนต์, หรืออุตสาหกรรมการแพทย์

การเตรียมตัวรับมือสำหรับ Industry 4.0

การเตรียมตัวรับมือกับ Industry 4.0 เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของโรงงานเพื่อให้สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยมีขั้นตอนหลักที่ควรพิจารณาดังนี้

  1. การพัฒนาและฝึกอบรมทักษะทางเทคโนโลยี

การมีทีมงานที่มีความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Industry 4.0 เป็นสิ่งที่สำคัญ เช่น ความรู้ด้านการใช้ IoT, AI, Big Data, และการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ประกอบการควรลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงานเพื่อให้สามารถใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล

การนำระบบอัตโนมัติ, หุ่นยนต์อัจฉริยะ, และ IoT เข้ามาใช้ในโรงงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนได้ ผู้ประกอบการควรพิจารณาลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตในโรงงานของตน

  1. การพัฒนาระบบการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ

การใช้ IoT และ Big Data จะทำให้การเชื่อมต่อและการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องจักรและระบบต่าง ๆ ในโรงงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น ผู้ประกอบการควรลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ ระบบเชื่อมต่อข้อมูล ที่มีประสิทธิภาพ เช่น การเชื่อมต่อข้อมูลจากเครื่องจักรไปยังระบบควบคุมกลาง

  1. การปรับปรุงกระบวนการผลิต

การใช้ Industry 4.0 ช่วยให้สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการควรปรับปรุงการผลิตให้สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดของเสียในการผลิต

ผลกระทบหรือสิ่งที่ควรระวัง

แม้ว่าการนำแนวคิดหรือการปรับตัวในการเป็น Industry 4.0 มาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน แต่ก็มีผลกระทบที่ควรระวังเช่นกัน

  1. การลงทุนที่สูง 

การนำ Industry 4.0 เข้ามาใช้ในโรงงานหรือธุรกิจจะต้องมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงการติดตั้งเครื่องจักรที่มีความซับซ้อน ระบบอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ IoT, การสร้างระบบคลาวด์, การวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data), และเทคโนโลยี AI ต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงาน

  • ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง – ทั้งในด้านการลงทุนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตลอดจนการจัดหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจ การซื้อเซ็นเซอร์ การติดตั้งเครื่องจักรที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ และการซื้อระบบซอฟต์แวร์ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจาก IoT และ Big Data 
  • ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะพนักงาน – การฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้พร้อมรับกับการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ข้อมูล, หุ่นยนต์, หรือการใช้ AI และ Machine Learning ซึ่งอาจต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุนในการอบรมเพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน – การใช้ Industry 4.0 อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่มีการใช้ หุ่นยนต์อัตโนมัติ หรือ AI ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในบางตำแหน่ง
  • การแทนที่แรงงานมนุษย์ – การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในการใช้แรงงานและเพิ่มความเร็วในการผลิต แต่ก็ส่งผลให้แรงงานบางกลุ่มอาจถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการตกงาน หรือการลดโอกาสในการหางานสำหรับบางกลุ่มในตลาดแรงงาน
  • การเปลี่ยนแปลงในทักษะที่ต้องการ – แม้จะมีการลดการใช้แรงงานมนุษย์ในบางตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกัน Industry 4.0 ก็สร้างความต้องการในทักษะใหม่ ๆ ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี เช่น ความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล, การพัฒนา AI, การเขียนโปรแกรม ดังนั้นพนักงานในอุตสาหกรรมต้องมีการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมใหม่

โอกาสหรือประโยชน์จากการเข้าสู่ Industry 4.0

Industry 4.0 คือ การเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมที่สำคัญโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น IoT, Big Data, AI, และ หุ่นยนต์อัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน แม้ว่าจะมีความท้าทายในการลงทุนและการปรับตัวเข้าสู่โรงงาน 4.0 แต่ อุตสาหกรรม 4.0 ยังมีประโยชน์และโอกาสที่สำคัญ เช่น การลดของเสีย การเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิต และการตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทันเวลา สำหรับผู้ประกอบการ การเตรียมตัวรับมือกับ Industry 4.0 โดยการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการฝึกอบรมพนักงานสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company