NECTEC จับมือพันธมิตรขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเซนเซอร์ไทยผ่านงาน NECTEC-ACE 2024

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) จับมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชนสนับสนุนการจัดงานแถลงข่าวการจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค ประจำปี 2567 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2024 (NECTEC–ACE 2024) ในชื่อ ‘The Next Era of Thai Intelligent Sensors: เปิดโลกเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยเซนเซอร์ไทยอัจฉริยะ’ โดยจะมีการจัดงานในวันที่ จัดขึ้นวันที่ 10 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมอิมแพคฟอรั่ม (ฮอลล์ 4) เมืองทองธานี

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. พร้อมหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนสนับสนุนการจัดงาน NECTEC–ACE 2024 โดยได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.),บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอเอ็มดี เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ภายใต้แนวคิด ‘ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า’

NECTEC-ACE 2024 เปลี่ยนงานวิจัยสู่การชิงชัยของภาคธุรกิจที่เป็นจริงได้!

งาน NECTEC-ACE 2024 ให้ความสำคญกับนำเสนอการพัฒนาเทคโนโลยีเซนเซอร์ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพ โอกาส นโยบาย และทิศทางของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมเซนเซอร์ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีฐานรากอันสำคัญในการขับเคลื่อนการแข่งขันของอุตสาหกรรมยุคใหม่

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า เนคเทค สวทช. ในฐานะองค์กรวิจัยของประเทศ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อกับภารกิจในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ เปรียบเสมือนเป็น ‘เครื่องจักรสำคัญเพื่อสร้างฐานรากทางเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูงให้กับประเทศ‘ ผลักดันเทคโนโลยีและผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ โดยมุ่งเน้น 3 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่

1. Intelligent Sensors
2. Networking & Communication
3. AI & Big Data

เนคเทค สวทช. ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ รวมทั้งการสร้างแพลตฟอร์ม หรือเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญให้กับประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยพร้อมทั้งสร้างสรรค์ผลงานวิจัยให้ตอบโจทย์การใช้งานภายในประเทศ สร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่สามารถผลักดันงานวิจัยไปสู่ผู้ใช้งานจริงได้อย่างยั่งยืน

ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 17 ของการจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทค หรือ NECTEC-ACE ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานวิจัยที่ใช้งานได้จริงให้กับประเทศ ในรูปแบบเวทีนำเสนอผลงานวิจัย
การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายพันธมิตร
ในการขับเคลื่อนงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ ความพิเศษของการจัดงานNECTEC-ACE คือ การนำเสนอแนวคิดหลักของการจัดงานที่แตกต่างกันออกไปทุกปี

‘เซนเซอร์’ พื้นฐานการขับเคลื่อนโลกยุคใหม่ที่ดิจิทัลเข้าไปอยู่ทั้งภาคธุรกิจ การผลิต และชีวิตประจำวัน

NECTEC-ACE ในปีนี้นำเสนอเรื่องราวของเทคโนโลยีเซนเซอร์ ที่มีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัลและเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ เสริมสร้างศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมทั้งในระดับประเทศและระดับสากล จึงเป็นที่มาของการจัดงาน NECTEC-ACE 2024 ภายใต้แนวคิด The Next Era of Thai Intelligent Sensors เปิดโลกเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยเซนเซอร์ไทยอัจฉริยะ ที่เนคเทค สวทช. และหน่วยงานพันธมิตรทั้ง 26 หน่วยงาน เตรียมพร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจในหลากหลายมิติเกี่ยวข้องกับเซนเซอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทั้งในรูปแบบสัมมนาวิชาการ การจัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงศักยภาพของงานวิจัยไทยที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้ตั้งแต่สถานะปัจจุบันของเทคโนโลยีเซนเซอร์อัจฉริยะในไทย งานวิจัยพื้นฐาน ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงโอกาส และความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยีเซนเซอร์ของไทย ตลอดจนมุมมองด้านการตลาดและการลงทุน ทั้งในมิติของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรม เสริมระบบนิเวศการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเซนเซอร์อัจฉริยะภายในประเทศ ให้พร้อมก้าวสู่ตลาดการแข่งขันในระดับสากล

NECTEC เรียกน้ำย่อยก่อนวันจัดงานจริง โชว์ 2 นวัตกรรมใหม่ฝีมือนักวิจัยไทยด้านเซนเซอร์

ก่อนที่จะได้สัมผัสกับนวัตกรรมและบรรยากาศการจัดงานในวันจริง ภายในงานแถลงข่าว NECTEC-ACE 2024 ได้นำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเซนเซอร์อัจฉริยะของเนคเทค สวทช. บางส่วนมาจัดแสดงให้นักข่าวและพันธมิตรได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ได้แก่

1. แพลตฟอร์มวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ด้วยเครื่องวัดสัญญาณรามานแบบพกพาร่วมชิปขยายสัญญาณ ‘ONSPEC Prime’ ใช้ AI และ Cloud ในการจำแนกผู้ป่วยและพยากรณ์โรค เช่น วัณโรค ไข้เลือดออก และมะเร็ง ทราบผลใน 30 นาที รองรับการตรวจ on-site และการจัดการข้อมูลออนไลน์
2. แพลตฟอร์มเทระเฮิรตซ์: ที่ประกอบด้วย TeraAnt อุปกรณ์รับและส่งสัญญาณเทระเฮิรตซ์เสาอากาศแบบตัวนำเชิงแสง (THz Photoconductive Antenna) สำหรับนำสัญญาณเทระเฮิร์ต มาใช้ในการศึกษาและวิเคราะห์สมบัติของวัสดุในอุตสาหกรรมอาหาร และยา และ TeraBoost แผ่นบูสต์สัญญาณ เมทะเซอร์เฟสสำหรับ 5G/6G ทำหน้าที่เสมือน WiFi Booster ช่วยเพิ่มกำลังและรวมสัญญาณเครือข่าย 5G ให้โฟกัสไปยังบริเวณที่มีความต้องการใช้งานหรือบริเวณตำแหน่งอับสัญญาณ โดยสามารถเพิ่มค่ากำลังของสัญญาณได้สูงสุดถึง 15 dB (ประมาณ 32 เท่า) ที่ความถี่ 26 GHz และรองรับการใช้งาน 6G ในอนาคต

ไฮไลต์ในงาน NECTEC–ACE 2024:

• 6 หัวข้อสัมมนาทางวิชาการ ที่ได้รวบรวมกูรู ผู้บริหาร นักวิชาการ นักวิจัย วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากภาครัฐ และเอกชน กว่า 25 ท่าน ที่จะมาร่วมนำเสนอความรู้ ความก้าวหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาเซนเซอร์อัจฉริยะครบทุกมิติทั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทั้งด้านนโยบาย
  การสนับสนุน โอกาสการลงทุน การเติบโตในอนาคต
• 50 บูธนิทรรศการพร้อมใช้ แสดงผลงานวิจัยพัฒนาด้านเซนเซอร์อัจฉริยะ จากเนคเทค สวทช.
  ที่พร้อมตอบโจทย์การประยุกต์ใช้งาน ทั้งสุขภาพการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และงานวิจัย
  ขั้นสูงสู่อนาคตเทคโนโลยีเซนเซอร์ และผลงานจากหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม สถานบันการศึกษา ร่วมนำนวัตกรรม บริการ โซลูชัน มาตรการสนับสนุน เพื่อผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมเซนเซอร์ในประเทศ

‘งานวิจัยไทย’ ความท้าทายที่เป็นไปได้จริงไม่ใช่แค่ขึ้นหิ้งอย่างที่เคยเป็น

ในอดีตเราอาจเคยชินกับคำว่า ‘งานวิจัยขึ้นหิ้ง’ ที่ทำทิ้งไว้แล้วก็ไม่ได้ใช้งานจริง แต่ต้องบอกว่าเป็นเพราะผู้คนยังขาดความรู้ ขาดสะพาน และจินตนาการในการเชื่อมต่องานวิจัยกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้บริบทของงานวิจัยเหล่านี้ได้เปลี่ยนไป โดยเนคเทค สวทช. ได้เล่าถึงการตั้งเป้าและการประยุกต์ใช้งานวิจัยในภาคเอกชนให้เกิดขึ้นได้จริงเป็นลำดับแรก ๆ

ซึ่งความท้าทายที่เกิดขึ้นได้เปลี่ยนไปเป็นเรื่องของมาตรฐานที่จะมากำกับภายใต้การใช้งานจริง แน่นอนว่างานวิจัยที่ทำขึ้นมาถูกต้องตามทฤษฎียังต้องมีการเสริมมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Reliability, ความปลอดภัย และมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เครื่องมือแพทย์ที่ต้องมีเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย และแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กำหนด ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของการประยุกต์งานวิจัยให้เข้ากับบริบทของธุรกิจแล้ว ในเรื่องของราคายังเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการและผู้ใช้งาน ราคาจำเป็นต้องแข่งขันได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบเทียบจากคู่แข่งต่างประเทศ ดังนั้น เนคเทค สวทช. จึงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีที่ต่างชาติอาจยังไม่ได้เข้ามา อาทิ ชุดตรวจ TB ต้องมองช่องให้ออก ต้องคิดถึงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานองค์กรในประเทศ การเอาเทคโนโลยีไทยแท้เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนให้ได้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญเช่นกัน

โอกาสยังมีอีกมากสำหรับผู้ผลิตไทยที่ต้องการเป็น ODM

ความแตกต่างที่สำคัญของงานวิจัยไทยกับงานจากต่างประเทศนั้น เนคเทค สวทช. มองในเรื่องของประเด็นและพื้นที่ในประเทศที่ทำให้มีโจทย์ชัดเจน บางประเทศอาจมีเทคโนโลยีล้ำหน้า แต่ไม่มีพื้นที่ ไม่มีกลุ่มเป้าหมายให้ทดสอบ ในขณะที่ประเทศไทยยังมีโอกาสตรงนี้อีกเยอะ ยกตัวอย่างเช่น การทำการเกษตรอัจฉริยะยังมีพื้นที่อีกมากให้ได้ทดลองและดำเนินการ หรือด้านการแพทย์ที่ประเทศไทยมีความเข้มข้นในการขึ้นทะเบียนด้านการแพทย์ แม้แต่ในเรื่องของการดูแลผู้สูงอายุที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งแทบจะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนด้านนี้เลย เรียกว่าเป็นโอกาสที่คนไทย นักวิจัยไทย นักธุรกิจไทยควรรีบไขว่คว้าเอาไว้ เรียกว่าเป็นโอกาสชั้นดีที่ไม่ได้มีทุกที่ให้ได้ลงมือทำ

หากผู้ประกอบการที่สนใจในการพัฒนาสิ่งใหม่ มีแนวคิด มีไอเดีย มีความชัดเจนอะไรบางอย่างแล้ว การเข้ามาคุยกับ เนคเทค สวทช. จะเป็นตัวเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ด้านเทคนิคหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตลอดจนการสร้างความร่วมมือกับนักวิจัยเพื่อขอทุนสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์/โซลูชันใหม่ ๆ ก็สามารถทำได้ ซึ่งสามารถขอรับการสนุบสนุนด้านเงินลงทุนวิจัยและพัฒนาได้สูงสุดถึง 90% เรียกได้ว่ามีทั้งโอกาสทางธุรกิจมากมาย และมีการสนับสนุนจากภาครัฐในการสร้างสินค้าที่เป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร ซึ่งในหลายกรณีอาจมีงานวิจัยที่เกิดขึ้นมารองรับแอปพลิเคชันนั้น ๆ อยู่แล้ว เหลือแค่การบูรณาการทรัพยากรเดิมเข้าสู่แอปพลิเคชันที่ต้องการก็สามารถลดทั้งต้นทุนและเวลาในการออกสู่ตลาดได้อย่างมหาศาลอีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาเทคโนโลยีหรือโซลูชันด้านเซนเซอร์อัจฉริยะ ตลอดจนการยกระดับสู่การผลิตสินค้า ODM ที่อยู่บนพื้นฐานของนวัตกรรมสมัยใหม่ พลาดไม่ได้กับงาน NECTEC-ACE 2024 ในวันที่ 10 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ไม่ว่าจะเป็นบูธนิทรรศการและงานประชุมวิชาการที่น่าจับตามากที่สุดงานหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่

สามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่:

https://nectec.or.th/ace2024/