แนวโน้มของการขาดแคลนชิปในระดับโลกครั้งใหม่อาจอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เมื่อการเติบโตของตลาด AI ทำให้ความต้องการใช้งานชิปสมัยใหม่นั้นพุ่งทะยานขึ้นสูงจนอาจทำให้เกิดการขาดตลาดขึ้นอีกครั้ง
การพุ่งทะยานขึ้นในความต้องการ AI ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์และสมาร์ทโฟนยุคใหม่ รวมถึงคอมพิวเตอร์พกพาอาจนำไปสู่การขาดแคลนชิปครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อครั้งการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งกระทบต่อซัพพลายเชนและเร่งความต้องการที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ รวมถึง GPU เป็นผลจากการทำงานอยู่ที่บ้านในช่วงกักตัว
แต่การขาดแคลนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากความต้องการ GPU หรือหน่วยประมวลผลภาพจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างอุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน AI ได้ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์พกพา ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในเวลาอันสั้น เมื่อรวมกับผลกระทบทาง Geopolitics หรือภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังทวีความเข้มข้น ทำให้แนวโน้มของการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์นั้นมีสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจน
ผู้พัฒนาเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Nvidia นั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ โดย GPU กลุ่มนี้มักอยู่ใน Data Center ที่ใช้ในการฝึกโมเดล AI สำหรับแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT ซึ่งเป็น GenAI รูปแบบหนึ่ง ในขณะเดียวกัน บริษัทอย่าง Qualcomm ที่ออกแบบชิปสำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีการใช้งาน AI ในระบบโดยไม่จำเป็นต้องต่อเข้ากับเครือข่ายก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อการขาดแคลนที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจนอยู่ว่าความต้องการ AI ใน Gadget นั้นจะมีปริมาณมากน้อยเท่าไหร่ เพราะซัพพลายเชนของเซมิคอนดักเตอร์นั้นมีความซับซ้อน ซึ่งหากมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น 20% หรือมากกว่านั้นจะทำให้ตลาดเกิดการขาดแคลนอีกครั้งได้
ที่มา:
cnbc.com
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
TSMC เลื่อนแผนการผลิตชิปในสหรัฐจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
จีนทุ่ม 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมชิป แซงหน้าเกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐฯ แม้ถูกคว่ำบาตร