ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2023 ที่ผ่านมา The Biden administration ได้มีการออกประกาศแผนการใหม่ เตรียมเพิ่มความเข้มข้นในการลดการส่งออกเทคโนโลยีชิปขั้นสูงไปยังประเทศจีน
- สหรัฐฯ คุมเข้ม เตรียมเพิ่มระดับมาตรการห้ามส่งออกชิปไปยังจีน
- Microsoft ประกาศเปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ที่สามารถแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง NVIDIA ได้
มาตรการในครั้งนั้นได้ส่งผลกระทบทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ถูกจำกัดการขายชิปในรุ่นที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า H100 อย่าง H800 หรือ A800 ให้ไม่สามารถทำการส่งออกไปยังประเทศจีนได้อีกต่อไป ซึ่งทางสหรัฐฯ ได้ให้เหตุผลต่อการตัดสินใจในครั้งนั้นเอาไว้ว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ประเทศจีนสามารถนำเซมิคอนดักเตอร์หรืออุปกรณ์ขั้นสูงไปใช้ในทางทหารได้
ข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายต่างก็มองว่ามาตรการใหม่นี้จะส่งผลลบต่ออุตสาหกรรมชิปของสหรัฐอเมริกาแทนเสียเอง โดยทางด้านสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor Industry Association – SIA) นั้นยังได้ออกมาโต้แย้งว่าข้อจำกัดเช่นนี้ “ถือเป็นความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ และไม่ได้ช่วยเพิ่มความมั่นคงของชาติ”
คำถามต่อมาจึงกลายเป็น Nvidia จะเอาตัวรอดอย่างไรต่อการถูกจำกัดการขายไปยังหนึ่งในประเทศที่มีความต้องการชิปและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ?
ปัจจุบัน Nvidia ได้วางแผนที่จะทำการ Mass produce ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ‘H20’ ในประเทศจีน เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองของปี 2024 โดยชิป H20 ก็จะมุ่งเน้นที่การส่งมอบเข้าสู่ตลาดจีนโดยเฉพาะ
แต่ถึงแม้ว่า H20 จะเป็นชิปที่มีศักยภาพมากที่สุดที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับประเทศจีนโดยเฉพาะแล้ว แต่บริษัทต่าง ๆ ในจีนกลับแสดงความไม่เต็มใจที่จะซื้อ H20 ที่มีการ Downgrade ลง และยังคงสำรวจหาทางเลือกอื่นในการจัดซื้อชิปด้วยความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจทำการยกระดับข้อจำกัดเพิ่มเติมขึ้นได้อีกในอนาคต
ทั้งนี้ทาง Nvidia ก็มีการวางแผนเตรียมผลิตชิปอีกสองตัวที่จะเป็นไปตามข้อจำกัดใหม่ในการส่งออกไปยังจีนได้แก่ L20 และ L2 อย่างไรก็ตามทาง Nvidia ก็ยังไม่มีการประกาศข้อมูลว่าจะพร้อมเริ่มต้นการขายได้เมื่อใด
ในขณะที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกต่างก็กำลังพยายามเดินหน้าพัฒนาความสามารถในการผลิตและแข่งขันของตนเองกันอยู่นั้น Nvidia ที่ติดอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนจำเป็นที่จะต้องมีความยืดหยุ่นและทำการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายระหว่างประเทศให้ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยให้ Nvidia สามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปในอุตสาหกรรมชิปได้อย่างแข็งแกร่ง
ที่มาข้อมูล : Wion