‘PRIME’ เผยครึ่งปีแรกกำไรเติบโต 50.3% เร่งเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์กัมพูชา บุกขยายการลงทุนทั่วเอเชียแปซิฟิก พร้อมลุยธุรกิจใหม่รับเหมาก่อสร้าง Solar Rooftop ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1,000 ล้านบาท
นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘PRIME’ เปิดเผยผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้รวม 357 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากรายได้รวม 337 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2562 และมีกำไรเบ็ดเสร็จ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.3% จากกำไรเบ็ดเสร็จ 161 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2562 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิสูงประมาณ 49% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยการ เติบโตนี้มาจากการรับรู้รายได้เต็มงวดของโรงไฟฟ้า 3 โครงการในประเทศไต้หวันที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อเดือนเมษายน ปี 2562 รวมถึงยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการแข็งค่าของเงินบาท และ ส่วนเกินทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมในระหว่างงวด
“ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันฯ รายได้หลักของบริษัทเกือบทั้งหมด มาจากการขายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีขนาดกำลังผลิตติดตั้งทั้งหมดรวม 287 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการ ขายไฟแล้ว 179 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 108 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 132.3 เมกะวัตต์ ประเทศญี่ปุ่น 68.2 เมกะวัตต์ ประเทศไต้หวัน 8.5 เมกะวัตต์ และประเทศกัมพูชา 78 เมกะวัตต์ โดยโครงการที่ขายไฟแล้วคาดว่าจะทำรายได้ในปีนี้ราว 700 ล้านบาท”
ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเทศกัมพูชา ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดกัมปงชนัง มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ และมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาส 2 ปี 2565
“ในตอนนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการคัดเลือกสถาบันการเงินที่จะเป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อโครงการ (Project Finance) จำนวน 70% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด 1,500 ล้านบาท ซึ่งธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ที่เป็นปรึกษาโครงการตั้งแต่ต้นก็ได้ให้ข้อเสนอที่ดีมากมาให้แล้ว แต่บริษัทฯ ยังได้รับความสนใจจากสถาบัน การเงินระดับนานาชาติแห่งอื่นที่สนใจสนับสนุนสินเชื่อให้เช่นกัน โดยบริษัทฯ จะสรุปเลือกสถาบันการเงินที่ให้ ข้อเสนอที่ดีที่สุดแก่บริษัทฯ ได้ในเร็วๆ นี้”
ส่วนธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคา (Solar Rooftop EPC) ปัจจุบัน มีโครงการที่มีความเป็นไปได้สูงมารอให้เข้าไปดำเนินการเกือบ 30 โครงการ ซึ่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการดี มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง และระบบ Solar Rooftop จะช่วยลดค่าไฟซึ่งเป็นต้นทุนของธุรกิจได้อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ ลุยเจรจาและทำสัญญา กับลูกค้าที่มีศักยภาพสูงก่อน ทำให้ปัจจุบันมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วกับโครงการที่กำลังจะทำสัญญา รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และ ภายในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าจะทำสัญญาให้ได้มูลค่ารวม 300 ล้านบาท แต่อาจจะก่อสร้างแล้วเสร็จและรับรู้ รายได้ภายในปี 2564