PTC เปิดตัว Creo 11

PTC เปิดตัว Creo 11 พร้อมอัปเดตโซลูชัน SaaS CAD เพื่อยกระดับการผลิตและนวัตกรรม

Date Post
28.05.2024
Post Views

ซอฟต์แวร์ที่มีการพัฒนาช่วยให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น หากยังพอจำกันได้ตั้งแต่ Windows 95 มาจนถึง Windows 11 หรือ เฟซบุ๊กในช่วงแรก เปรียบเทียบกับปัจจุบัน ดังนั้น การออกซอฟต์แวร์รุ่นใหม่จึงเอาฟีดแบคของผู้ใช้งานมาพัฒนาในการออกแบบเพื่อให้สะดวกต่อผู้ใช้งานมากขึ้น 

Creo เป็นซอฟต์แวร์ CAD (Computer Aided Design) จาก PTC ซึ่งมีเวอร์ชันใหม่ออกมาทุกปี ซึ่งซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุด คือ Creo 11 มาพร้อมกับเวอร์ชันอัปเดตของโซลูชัน Creo+ SaaS CAD ซึ่ง Creo มีซอฟต์แวร์ทั้งแบบติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ และแบบบริการซอฟต์แวร์ผ่านทางคลาวด์ ซึ่งแบบหลังง่ายกว่าหากมีผู้ใช้จำนวนมาก ไม่ต้องลงทุนเครื่อง แต่ต้อง  Log In ในคลาวด์แบบเดียวกับที่เราใช้ Facebook หรือ Google ซึ่งไม่ต้องลงโปรแกรมในเครื่อง สำหรับซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อยกระดับผลิตภาพและนวัตกรรม ช่วยให้วิศวกรสามารถออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Improvements in Creo 11 include enhanced lattice structure creation, and smoother operations, such as 4-axis rotary milling and area turning.

Creo 11 ช่วยให้สร้างโครงสร้างตาข่ายดีขึ้น และการทำงานอย่างการกัดแบบหมุน 4 แกน และการกลึงพื้นผิวราบรื่นยิ่งขึ้น
(ที่มา: PTC)

จากข้อมูลของ PTC ซอฟต์แวร์เวอร์ชัน Creo 11 มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้การใช้งานนั้นง่ายขึ้นในด้านต่าง ๆ ได้แก่

  • การออกแบบวงจรไฟฟ้าในผลิตภัณฑ์ (Electrification) 
  • วัสดุคอมโพสิต (Composites) 
  • การบันทึกข้อมูลในแบบจำลอง 3 มิติ (Model-based definition หรือ MBD) 
  • การออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วยการจำลอง (Simulation-Driven Design) 
  • การผลิต (Manufacturing)   

Brian Thompson, General Manager ของ Creo บริษัท PTC เน้นย้ำว่าวิศวกรออกแบบมีการอัปเกรดอยู่เสมอ เช่น การใช้ Generative Design ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการใช้ซอฟแวร์จำลอง Ansys* ที่ฝังอยู่ใน Creo ทำให้ลดเวลาในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพมากขึ้น และต้นทุนการผลิตลดลง

* Ansys คือ โปรแกรมจำลองทางวิศวกรรม สำหรับดูแรงทางฟิสิกส์ต่าง ๆ รวมถึงการไหลและอุณหภูมิ เป็นการดูประสิทธิภาพของชิ้นงาน เพื่อปรับเปลี่ยนแบบหรือหลีกเลี่ยงการทดลองจากชิ้นงานจริงซึ่งต้นทุนค่อนข้างแพง

วิดีโอ การจำลอง Creo Ansys

ชุดอัปเกรด Creo 11 เน้นในเรื่องของการใช้งานและประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงรองรับแนวคิดแบบ Multibody อย่างเช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพการออกแบบชิ้นส่วน (การออกแบบชิ้นส่วนหลายชิ้นแล้วนำมาประกอบกันเป็นชิ้นใหญ่ โดยเน้นการประหยัดต้นทุนการผลิต) Shrinkwrap ฟีเจอร์จัดการชุดประกอบให้ง่ายขึ้น (ความสามารถในการเลือกชิ้นส่วนให้รวมกันเป็นชิ้นเดียวเพื่อเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก) และฟีเจอร์การวัดปริมาตรที่อัปเกรดสำหรับโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ดีที่สุด (ซอฟต์แวร์จะบอกขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใส่ชิ้นงานได้) นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ยังจัดการความสามารถในการใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น เครื่องมือเคเบิ้ลขั้นสูงและการทำงานร่วมกันของ ECAD-MCAD (Electrical CAD และ Mechanical CAD) ให้การใช้พลังงานไฟฟ้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น

คลิปวิดีโอเปิดตัว Creo 11 

ซอฟต์แวร์ยังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการออกแบบและการผลิตวัสดุคอมโพสิต ด้วยเครื่องมือกำหนดรูปแบบตามแบบจำลองที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และความสามารถในการออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วยการจำลองใหม่ ๆ ที่ช่วยในการออกแบบแนวคิด คำแนะนำ และการตรวจสอบความถูกต้องของการออกแบบ นอกจากนี้ ฟังก์ชัน Generative Design ยังมีการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การกำหนดขนาดคุณสมบัติขั้นต่ำเพื่อไม่ให้บางเกินไปจนยากต่อการผลิตหรือเป็นจุดอ่อนที่แตกหักได้ง่าย การรองรับน้ำหนักของแบริ่ง (Bearing Load) และข้อจำกัดสำหรับสมมาตรระนาบ (Planar Symmetry)

วิดีโอ การจำลอง Bearling Load

Creo 11 ยังปรับปรุงเครื่องมือการผลิต โดยปรับกระบวนการแบบเติมวัสดุ (Additive) และแบบหักล้าง (Subtractive) ให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิต สิ่งที่ได้รับปรับปรุงอย่างเด่นชัด ได้แก่ การสร้างโครงสร้างตาข่ายและการทำงานที่ราบรื่นขึ้น เช่น การกัดแบบหมุนรอบ 4 แกน และการกลึงพื้นผิว

PTC ยังได้เปิดตัว Creo+ เวอร์ชันล่าสุดควบคู่ไปกับ Creo 11 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ และเข้าถึงเทคโนโลยีหลักแบบเดียวกันกับเวอร์ชันที่ติดตั้งในเครื่อง ไม่จำเป็นต้องแปลข้อมูล ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้จากประโยชน์ของระบบคลาวด์ได้อีกด้วย

บทความเกี่ยวกับ On Cloud และ On-Premises 

Cloud vs On-Premises แบบไหนคุ้มกว่า? (ที่มา: monsterconnect.co.th)

https://monsterconnect.co.th/cloud-vs-on-premises/

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Kasiwoot T.
อดีตวิศวกรโรงงาน (Industrial Engineer) บริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์ ที่ผันตัวมาทำงานด้านการขายและการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคและส่งออก มีประสบการณ์อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายของโรงงานชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์จากการใช้แรงงานคนแบบดั้งเดิม (Labor Intensive) เป็นการผลิตระบบอัตโนมัติด้วยเครื่องจักรทั้งหมด 24 ชม. (Full automation)