ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ประเทศจีน ได้เพิ่มการลงทุนใน อุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ อย่างมาก โดยมูลค่าการใช้จ่ายในด้าน เครื่องจักร และ อุปกรณ์การผลิตชิป มีมูลค่ารวมกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าประเทศ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา รวมกัน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ การลงทุนของจีนอาจเพิ่มขึ้นถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับ มาตรการคว่ำบาตร ที่เข้มงวดในการเข้าถึง เทคโนโลยีการผลิตชิประดับสูง
- จีนลงทุนกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในครึ่งแรกของปี 2024 และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี
- จีนเผชิญข้อจำกัดจากการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิประดับสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI
- การตอบโต้ของจีน: จีนเร่งซื้ออุปกรณ์การผลิตชิปแม้ยังไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที เพื่อเตรียมพร้อมต่อมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต
- บริษัทต่าง ๆ เช่น Tokyo Electron, Applied Materials และ ASML ได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายอุปกรณ์ให้กับจีน
- ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานเกิน: สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SEMI) เตือนว่าการลงทุนต่อเนื่องอาจนำไปสู่ภาวะอุปทานเกินในตลาด
- ในเดือนกรกฎาคม 2024 สหรัฐฯ มียอดขายชิปสูงกว่าจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
- แม้เผชิญมาตรการคว่ำบาตร จีนยังคงมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก
มาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป: การตอบโต้ในอุตสาหกรรมชิป
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ออก มาตรการคว่ำบาตร เพื่อจำกัดการเข้าถึง เทคโนโลยีการผลิตชิประดับสูง ของจีน สหรัฐฯ ภายใต้ กฎหมาย Chips Act ได้ห้ามขายเทคโนโลยีที่ใช้ในชิปเพื่อ เร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ ในขณะที่ ยุโรป ก็ได้จำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิประดับสูงเช่นกัน
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเหล่านี้ จีนยังคงทุ่มทุนอย่างต่อเนื่องในการซื้อ อุปกรณ์การผลิตชิป โดยมีปัจจัยหลักจากความกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรอาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทำให้จีนต้องเร่งซื้ออุปกรณ์ล่วงหน้าเพื่อเตรียมไว้ใช้
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทั่วโลก: การเติบโตของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์
การลงทุนของจีนได้ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ทั่วโลก เช่น Tokyo Electron, Applied Materials และ ASML มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้ขายเทคโนโลยีขั้นสูง ตัวอย่างเช่น Tokyo Electron รายงานว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ของบริษัทในไตรมาสที่ผ่านมา มาจากตลาดจีน
ความกังวลเรื่องอุปทานเกินในตลาดเซมิคอนดักเตอร์
การทุ่มทุนมหาศาลของจีนได้สร้างความกังวลเรื่อง อุปทานส่วนเกินในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ โดย สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SEMI) รายงานว่าการลงทุนที่ต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานเกิน แม้ว่าคาดว่าการสร้างโรงงานใหม่ในจีนจะกลับสู่ภาวะปกติในช่วง 2 ปีข้างหน้า
รวมการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
แม้จะเผชิญกับ มาตรการคว่ำบาตร ที่จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง จีนยังคงเดินหน้า ลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในอนาคตยังคงอยู่ โดยเฉพาะในด้านอุปทานที่อาจเกินความต้องการของตลาด