เทคโนโลยี SAF™ (Selective Absorption Fusion) จาก Stratasys เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติแบบเชื่อมผงวัสดุบนแท่น (Powder Bed Fusion) โดยใช้หัวพิมพ์เกรดอุตสาหกรรมหยอดของเหลวสำหรับเชื่อม หยอดตามตำแหน่งที่เลือก ของเหลวนี้จะดูดซับความร้อน และใช้โคมอินฟราเรดทำให้อนุภาคผงตรงจุดที่หยอดของเหลวเชื่อมไว้ หลอมละลายก่อรูปขึ้นเป็นวัตถุทีละชั้น ๆ
ล่าสุด Stratasys เปิดตัวเฟิร์มแวร์ใหม่เพื่อยกระดับความสามารถในการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยี SAF ให้มีความละเอียด คมชัดสูง และแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยออกมาเป็นรูปแบบการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ที่อัปเดตในเครื่องพิมพ์ H350 รุ่นก่อนหน้าได้ ในขณะที่เครื่องพิมพ์ H350 เวอร์ชัน 1.5 มีการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ใหม่นี้อยู่ในตัวอยู่แล้ว
วิดีโอ การปฏิวัติการผลิตด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ H350 และเทคโนโลยี SAF
Stratasys ยกระดับความสามารถในการพิมพ์ให้มีความละเอียดสูง เพื่อให้พิมพ์ได้อย่างแม่นยำ มีความละเอียด และคมชัดมากขึ้น
(ที่มา: Stratasys)
ความสามารถการพิมพ์ความละเอียดสูงของ Stratasys ทำให้ผู้ผลิตสามารถขยายการผลิตแบบเติมวัสดุได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการทำซ้ำ ๆ ที่เชื่อถือได้ ขณะเดียวกันก็สร้างชิ้นส่วนที่ซับซ้อนได้มากขึ้น และออกแบบได้หลากหลายมากขึ้น ลูกค้าจากอุตสาหกรรมการบินอวกาศ ยานยนต์ และสาธารณสุขสามารถใช้เทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิของ SAF มาประยุกต์การใช้งานตามความต้องการได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ
“สำหรับลูกค้า SAF นั้นการพิมพ์ที่มีความละเอียดสูงช่วยให้ส่วนประกอบมีความทนทานมากขึ้น ทำให้เราสามารถขยายและยกระดับความสามารถของลูกค้าให้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มบทบาทการพิมพ์ 3 มิติมาสู่การผลิตของพวกเขามากขึ้นอีกด้วย” Adam Ellis, Corporate Applications Manager ของ Stratasys กล่าว
Stratasys กำลังเปิดตัวเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ ‘H350 เวอร์ชัน 1.5’ ที่มีการปรับปรุงเซนเซอร์และความสามารถในการให้บริการระยะไกล ทำให้ใช้งานและให้บริการได้ง่ายขึ้น และยังมาพร้อมกับการอัปเดตเฟิร์มแวร์การพิมพ์ละเอียดคมชัดสูงอีกด้วย ในขณะที่เครื่องพิมพ์ 3 มิติ H350 รุ่นก่อน ๆ ก็สามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การพัฒนาที่ได้มาจากฟีดแบคของลูกค้า
“เครื่องพิมพ์ H350 ที่อัปเกรดพร้อมกับความสามารถใหม่ ๆ นั้นตอบโจทย์ความต้องการด้านประสิทธิภาพของลูกค้า พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากการผลิตแบบเติมวัสดุและเทคโนโลยี SAF มากขึ้น การประยุกต์ใช้งานและความสามารถของระบบใหม่ ๆ นั้นจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถขยายการผลิตด้วยชิ้นส่วนที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อความเร็วหรือคุณภาพ” Torben Lange, Vice President ฝ่ายวิจัยและพัฒนา SAF ของ Stratasys กล่าว
บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com