ต้นทุนด้านเวลาถือเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันที่มองข้ามไปไม่ได้! การซื้อ-ขายสินค้าอุตสาหกรรมเองก็ต้องการความคล่องตัว ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยเช่นกัน ทำให้ Supersource.online (ซุปเปอร์ซอร์ส ดอท ออนไลน์) จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำให้ภาคการผลิตของไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก e-Marketplace ได้อย่างเต็มศักยภาพภายใต้เงื่อนไขของธุรกิจ B2B ของภาคการผลิตแบบไทย ๆ
e-Marketplace ในยุคอุตสาหกรรม 4.0: การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันอันรวดเร็ว
ในยุคที่ความท้าทายของการผลิตเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันที่รุนแรง เทคโนโลยีการผลิตเองจึงต้องเกิดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องยกระดับศักยภาพของธุรกิจให้ก้าวนำความท้าทาย ‘Supersource.online’ จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง ‘ผู้ซื้อ’ และ ‘ผู้ขาย’ ในวงการสินค้าอุตสาหกรรม ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะเป็น e-Marketplace ครบวงจรที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพสินค้า เทคโนโลยี และการให้บริการแบบครบครัน ภายใต้ความคาดหวังของการซื้อ-ขายแบบออนไลน์ที่ต้องสามารถเปรียบเทียบราคาได้ชัดเจน และสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว
จากรายงานของ McKinsey & Company ระบุว่า การใช้ระบบอัตโนมัติและ Industrial IoT ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ถึง 40% ในขณะที่ e-Marketplace ในอุตสาหกรรมเฉพาะทาง (B2B Marketplace) กำลังกลายเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยมีการเติบโตของมูลค่าตลาดถึง 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2025
หนึ่งในตัวอย่างที่หลายคนอาจเคยใช้บริการ เช่น Alibaba หรือ 1688.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศจีน ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการค้าขายสินค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือในสหรัฐอเมริกาเองก็มี Grainger ที่มุ่งเน้นตลาด MRO (Maintenance, Repair, and Operations) ส่งผลให้การจัดซื้อของโรงงานนั้นเกิดประสิทธิภาพและความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ประเทศไทยเองในฐานะ ‘ฐานการผลิตของอาเซียน’ หากต้องการรักษาความเป็นผู้นำ ก็ต้องปรับตัวนี้เช่นกัน
โอกาสในเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย และบทบาทของ Supersource.online
อุตสาหกรรมไทยในปี 2025 นั้นมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการขยายตัวของเศรษฐกิจภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC (Eastern Economic Corridor) ที่เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น Smart Mobilities, Smart Electronics, และ Robotics ฯลฯ ซึ่งปัจจจุบันอุตสาหกรรมมูลค่าสูงเหล่านี้จำนวนมากได้รับการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI แล้วในปี 2024 นี้
“การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่แค่เรื่องการผลิตสินค้า แต่เกี่ยวข้องกับการสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่ง e-Marketplace อย่าง Supersource.online จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านนี้” คุณธีระ กิตติธีรพรชัย CEO-GMTX เน้นย้ำถึงความสำคัญของ e-Marketplace ในโลกการผลิตยุคใหม่
Supersource.online ไม่เพียงนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากแบรนด์ชั้นนำเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาที่โรงงานไทยต้องเผชิญ เช่น การขาดข้อมูลเปรียบเทียบสินค้า หรือความต้องการสินค้าเฉพาะที่เข้าถึงได้ยาก โดยแพลตฟอร์มนี้จะเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างไร้รอยต่อ
GMTX กลั่นประสบการณ์กว่า 30 ปีในตลาดสินค้าอุตสาหกรรมสู่ Supersource.online
Supersource.online เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนที่สำคัญใน Ecosystem ของบริษัท GMTX ซึ่งอยู่ในธุรกิจการตลาดสินค้าอุตสาหกรรมมากว่า 30 ปี (ชื่อเดิม กรีนเวิลด์ พับลิเคชั่น) มีการเข้าถึงโรงงานอุตสาหกรรมเกือบ 10,000 แห่ง ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้า Automation Expo, งาน Intelligent Asia Thailand, งานสัมมนาโร้ดโชว์ Modern Manufacturing Forum ที่จัดทั่วประเทศ, สื่อออนไลน์ความรู้ด้านอุตสาหกรรม MM Thailand, YouTube channel – factory choice ฯลฯ
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญที่ลงลึกทำให้ GMTX เป็นที่ปรึกษาและให้บริการด้านการทำการตลาดสินค้าอุตสาหกรรมแก่แบรนด์ชั้นนำมากมาย อีกทั้งมีทีม Tele-marketing และทีม Data operation ที่พัฒนาฐานข้อมูลของซัพพลายเชนอุตสาหกรรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
“ในต่างประเทศ เราเห็นตัวอย่างแพลตฟอร์ม B2B ที่ช่วยยกระดับเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้จริง ไม่ว่าจะเยอรมนี ญี่ปุ่น หรือจีน และเรามั่นใจว่า Supersource.online จะทำสิ่งเดียวกันให้กับประเทศไทย ” คุณธีระกล่าว
คุณนัท – ภัทรานิษฐ์ เจริญผลจันทร์ COO ของ GMTX กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทุกวันนี้เราได้รับ Enquiries สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และจากการสำรวจตลาดก็พบว่ายังมีช่องว่างมหาศาลในการยกระดับบุคลากรไทยให้ทันต่อเทคโนโลยี 4.0 ดังนั้น แม้เราเองจะเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าและงานสัมมนาอยู่แล้ว แต่เชื่อว่า Supersource.online จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของอุตสาหกรรมไทยที่ยังขาดแพลตฟอร์มที่ครบวงจรในการเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรมใหม่ ๆ”
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าสินค้าอุตสาหกรรมมีขั้นตอนการซื้อ-ขายที่ซับซ้อนกว่าสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ช่องทางออนไลน์อาจยังไม่เจอความลงตัวที่สุดสำหรับสินค้ากลุ่มนี้ ซึ่งทาง CCO คุณปุ๋ม – พัชร์สิตา ศรีสิมะรัตน์ ได้ยืนยันถึงความมั่นใจเอาไว้ดังนี้ “เรามั่นใจเต็มร้อยว่านี่คือสิ่งที่ตลาดต้องการ ปุ๋มได้คุยกับผู้ขายและผู้ซื้อนับร้อยราย ทุกคนมองว่าช่องทางออฟไลน์ที่ให้คนพบปะกัน อย่างเช่นงานแสดงสินค้า หรือไดเรคเซลล์ ยังมีความสำคัญและจำเป็น แต่ช่องทางออนไลน์ตอบโจทย์ความรวดเร็ว ความสะดวก และทำให้เข้าถึงข้อมูลมหาศาลได้ง่าย ดังนั้น อาจเรียกได้ว่าใครที่ยังเก่งการตลาดออฟไลน์ถือว่ามีข้อได้เปรียบ แต่การตลาดออนไลน์คือเมนสตรีมของยุคนี้ ไม่ต่างจากการตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ที่ก็ยังต้องทำ Omni-Channel Marketing ถ้าอยากเป็นผู้ชนะ”
อนาคตของ Supersource.online ภายใต้ความเป็นหนึ่งเดียวกันของ Content และสินค้า
คุณฌาณวุฒิ ฤทธิโสม ในฐานะ Project Manager ของ Supersource เองก็มีประสบการณ์ด้านการตลาดธุรกิจ B2B กับแบรนด์ระดับโลก มีความเชี่ยวชาญการวางแผนกลยุทธ์ แถมยังมีดีกรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ทำให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานของ Supersource.online ได้อย่างแน่นอน
“ผมพบว่า Content คือ สิ่งที่การตลาดสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศไทยยังขาดอยู่มาก แต่วันนี้เริ่มเห็นเยอะขึ้นจากแบรนด์หรือ Micro Influencer หลายรายที่ทำได้น่าสนใจและได้รับฟีดแบ๊คอย่างดี ดังนั้น Supersource.online จึงใส่ใจการ On Board รายละเอียดสเปคสินค้าให้เข้าใจง่าย ค้นหาง่าย เปรียบเทียบง่าย รวมถึงการร่วมผลิตรีวิวสินค้า ซึ่งทางบริษัทก็มีสื่อออนไลน์ในมือที่บุกเบิกด้านนี้อยู่แล้ว ก็จะยิ่งเสริมให้ Supersource เป็นแหล่งรวมข้อมูลเนื้อหาด้านสินค้าอุตสาหกรรมภาษาไทยที่มากที่สุด”
นอกจากนี้ ฌาณวุฒิยังมองเห็นว่า ‘บริการ’ ถือเป็นอีก Touchpoint ที่เป็นจุดอ่อนของการตลาดออนไลน์สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม
“Sales Engineer ส่วนมากต้องทำงานออกฟิลด์ ให้บริการเทคนิค วางสเปค ฯลฯ ซึ่งเป็นงานที่มีมูลค่าสูงกว่าการนั่งเฝ้าคอยตอบแชทหรืออีเมล์ ซึ่ง Supersource จะมีทีมเข้ามาช่วยแก้ไข Pain Point ตรงนี้ เราพยายามคัดสินค้าและทำความเข้าใจสินค้าเพื่อบริการผู้ซื้อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เหมือนเป็นคนช่วยขายอีกแรง และเรายังมีบริการ Product Sourcing ที่ช่วยสนับสนุนผู้ซื้อในการค้นหาสินค้าที่ต้องการอีกด้วย
Supersource.online จะเปิดตัว Soft Launch ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 โดยเป็นช่วงการสร้างร้านค้าและ On Board สินค้าขึ้นระบบ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากซัพพลายเออร์แบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมเป็น Founding Vendors บนแพลตฟอร์ม
ต้องเรียนว่าด้วยความตั้งใจที่จะคัดสินค้าให้ตอบโจทย์เทคโนโลยี มีคุณภาพและบริการที่ดี เราจึงเริ่มต้นที่กลุ่ม Electric Automation, Smart Device, Sensor, IIoT, Power Drive และ IT Infrastructure และ MROs โดยตั้งเป้าเปิด 100 ร้านค้า ภายในไตรมาสแรกของปี 2025 และจะเริ่มเปิดให้ผู้ซื้อจากโรงงานทั่วประเทศลงทะเบียนใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าจะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับฝ่ายจัดซื้อมากมาย” ฌาณวุฒิเน้นย้ำถึงจุดเด่น Supersource.online ได้อย่างน่าสนใจและแตกต่าง
เพราะหัวใจของการซื้อ-ขายออนไลน์นั้นอยู่ที่ความโปร่งใส คล่องตัว และรวดเร็ว เมื่อผสานรวมกับการเป็นแหล่ง Content ที่รวบรวมการรีวิวสินค้าไว้ด้วย ทำให้ Supersource.online กลายเป็นแพลตฟอร์มครบวงจรที่สามารถเชื่อมต่อระหว่าง ‘ผู้ซื้อ’ และ ‘ผู้ขาย’ ในวงการสินค้าอุตสาหกรรมได้แบบ 24/7 ยกระดับประสบการณ์การจัดซื้อยุคใหม่แบบออนไลน์ให้เกิดขึ้นได้จริงภายใต้เงื่อนไขของธุรกิจ B2B
สามารถติดต่อสอบถามหรือสัมผัสประสบการณ์การใช้งานได้ที่
www.supersource.online
