เพียงไม่นานหลัง Tesla ได้รับคำสั่งเรียกคืนรถยนต์กว่า 1.1 ล้านคันจากปัญหาหน้าต่างรถยนต์ที่อาจจะเกิดการขัดข้องขึ้นได้นั้น ขณะนี้ Tesla ก็ได้มีคำสั่งเรียกคืนรถยนต์อีกกว่า 40,000 คันจากปัญหาระบบช่วยผ่อนแรงของพวงมาลัย (Power Steering Assist) ที่ส่งผลต่อการเลี้ยวของรถยนต์
- Tesla มาไทยแล้ว ! พร้อมรับสมัครพนักงานหลายตำแหน่ง
- ‘Optimus’ หุ่นยนต์ Humanoid robot แห่งอนาคตจาก Tesla
- Tesla เรียกคืนรถในสหรัฐกว่า 1.1 ล้านคันจากปัญหาหน้าต่างรถ
รถยนต์ Model S และ Model X ที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 2017-2021 กว่า 40,000 ที่มีการเรียกคืนนั้นถูกพบว่าระบบผ่อนแรงพวงมาลัยของรถยนต์อาจเกิดปัญหาขึ้นได้หากทำการขับขี่บนเส้นทางถนนที่มีความขรุขระหรือมีการตกหลุมบ่อ
ระบบช่วยบังคับเลี้ยวขัดข้อง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
ข้อมูลบนเว็บไซต์ Rueters ได้ระบุว่า The National Highway Traffic Safety Administration หรือ NHTSA ได้มีการกล่าวถึงปัญหาการสูญเสียระบบช่วยบังคับพวงมาลัยของรถยนต์ Tesla ที่อาจจะส่งผลให้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องใช้แรงมากขึ้นในการหักเลี้ยวพวงมาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับในความเร็วที่ต่ำ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
Tesla ได้ให้ข้อมูลว่าสำหรับรถยนตไฟฟ้าในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีการแจ้งเตือนรถที่มีปัญหาอยู่ 314 คัน แต่ยังไม่มีการรายงานถึงอุบัติเหตุ การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากปัญหาดังกล่าว และจากข้อมูลวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมานั้น รถยนต์ที่ถูก Tesla เรียกคืนกว่า 97% ได้มีการอัปเดตแก้ไขปัญหาไปเรียบร้อยแล้ว
ทำให้ในปัจจุบันภายในปี 2022 นี้ Tesla มีการเรียกคืนเกิดขึ้นแล้วกว่า 17 ครั้ง ซึ่งครอบคลุมจำนวนรถยนต์กว่า 3.4 ล้านคัน
แต่แม้จะพบเจอกับปัญหาการเรียกคืนเหล่านี้อยู่เรื่อย ๆ ก็ต้องยอมรับว่าด้วยการอัปเดตระบบซอฟต์แวร์แบบ over-the-air นั้นสามารถช่วยให้ Tesla สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่พบเจอได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งการเรียกคืนในครั้งนี้นั้น Tesla ก็ได้ใช้การอัปเดตแบบ over-the-air เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองแล้วเช่นกัน